เมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่างชาย หญิง เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนมักจะคิดไปถึงเรื่องของสรีระและพละกำลังเป็นสิ่งแรก แต่จริง ๆ แล้ว นอกจากทั้งสองเรื่องที่กล่าวมานั้น ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่แยกชายหญิงให้มีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของสมองและจิตใจ วันนี้กระปุกดอทคอมก็ เลยขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับความแตกต่างด้านจิตใจระหว่างชายและหญิง อันเกี่ยวเนื่องกับสมองที่แตกต่างมาฝากกัน พร้อมกับคำอธิบายว่าเหตุใดกันหนอ ชายหญิงจึงมีภาวะทางจิตใจที่แตกต่างกันได้ขนาดนั้น เอ้า พร้อมแล้วก็ไปติดตามกันเลยจ้า
1. ผู้ชายมีความสามารถในการจดจำทิศทางและคณิตศาสตร์ดีกว่าผู้หญิง
เพราะผู้ชายมีสมองส่วน parietal cortex และ Amygdala ที่มีขนาดใหญ่กว่าผู้หญิง ซึ่งสมองทั้งสองส่วนนี้ ทำหน้าที่เกี่ยวกับความทรงจำและความรู้สึกในสิ่งที่มีประสบการณ์มาก่อน นอกจากนี้ สมองส่วนที่เกี่ยวกับการหาตำแหน่งหรือเรขาคณิตของผู้ชายก็จะพัฒนาก่อนสมอง ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษามาตั้งแต่เด็กด้วย จึงไม่แปลกเลยหากผู้ชายจะสามารถอ่านแผนที่ หรือมีทักษะทางคณิตศาสตร์มากกว่าผู้หญิง
2. ผู้หญิงมีความสามารถทางด้านการติดต่อสื่อสารดีกว่าผู้ชาย
เพราะผู้หญิงมีสมองส่วนหน้า (frontal lobe) และสมองส่วนอารมณ์ (limbic cortex) ที่มีขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย ซึ่งสมองทั้งสองส่วนนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาและการตอบสนองทาง อารมณ์ และนอกจากนี้ สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาของผู้หญิงยังพัฒนาก่อนสมองส่วนอื่นมา ตั้งแต่เด็กด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้หญิงแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่าผู้ชาย และมีทักษะในการใช้ภาษาและอารมณ์มากกว่าผู้ชายนั่นเอง
3. ผู้หญิงคิดเร็วกว่าผู้ชาย
ผู้ชายนั้นมีสมองส่วนสีเทามากกว่าผู้หญิง ขณะที่ผู้หญิงนั้นมีสมองส่วนสีขาวมากกว่าผู้ชาย ซึ่งสมองส่วนสีขาวนี้จะทำหน้าที่จัดการการส่งข้อมูลได้รวดเร็ว ดังนั้น การที่ผู้หญิงมีสมองส่วนสีขาวมากกว่า จึงทำให้พวกเธอสามารถจัดการความคิดของตัวเองได้รวดเร็วกว่าผู้ชายนั่นเอง
4. ผู้ชายมีความต้องการทางเพศมากกว่าผู้หญิง
ผู้ชายนั้นถูกสร้างขึ้นมาให้มีสัญชาตญาณของผู้กระโจนเข้าหาเพศตรงข้ามเพื่อ สืบพันธุ์มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ พวกเขาจึงจำเป็นต้องมีความต้องการทางเพศที่มากกว่าฝังเข้ามาในตัวด้วย นอกจากนี้ ผู้ชายยังสืบพันธุ์ไปตามสัญชาตญาณและความต้องการทางเพศ เรื่องอารมณ์นั้นมีส่วนน้อยมาก ดังนั้น พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใดก็ได้ แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้รู้สึกหลงใหลได้ปลื้มสักนิดเลยก็ตาม
5. ผู้หญิงใช้อารมณ์เชื่อมโยงกับกิจกรรมทางเพศ
ในขณะที่ผู้ชายนั้นสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยปราศจากอารมณ์หลงใหลหรือรักใคร่ ได้ แต่ผู้หญิงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพศสัมพันธ์ของพวกเธอจะไม่เกิดขึ้นเลย หากเธอไม่มีอารมณ์หลงใหลหรือรักใคร่เสน่หาชายหนุ่มเสียก่อน นอกจากนี้ เธอยังปรารถนาถึงเพศสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อฝ่ายชายมีเพศสัมพันธ์กับพวกเธอด้วยความรักอีกด้วย
6. ผู้ชายใช้เหตุผลสยบทุกอย่าง
ผู้ชายมักจะใช้เหตุผลเชื่อมโยงกับทุก ๆ คำพูดของเขาเสมอ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของผู้ชายอยู่แล้ว ทั้งนี้ เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากเซลล์สมองของพวกเขานั้น จะเติบโตรุดหน้าผู้หญิงไปอย่างตามกันไม่ทันเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็มาจากการที่พวกเขาถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นในสังคมที่ สอนให้ผู้ชายเป็นเพศที่เข้มแข็ง ไม่เปิดเผยอารมณ์หรือความอ่อนแอออกมาได้ง่าย ๆ จึงส่งผลให้พวกเขาได้ใช้เหตุผลมากกว่า มีเหตุผลมากกว่า และแทบไม่ใช้อารมณ์เลยทีเดียว
7. ผู้หญิงใช้อารมณ์สยบทุกอย่าง
ผู้หญิงมีสมองส่วนอารมณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย ซ้ำยังมีการใช้สมองทั้งสองซีกในการตอบสนองต่ออารมณ์ด้วย (ขณะที่ผู้ชายใช้สมองเพียงด้านเดียว) และไม่เพียงแค่นั้น ผู้หญิงยังได้รับการหล่อหลอมจากบทบาทของผู้หญิงในสังคมว่า เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า สามารถเปิดเผยอารมณ์ของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากเพศชายที่ต้องเก็บกดอารมณ์เอาไว้โดยสิ้นเชิง ดังนั้น พวกเธอจึงใช้อารมณ์นำทุก ๆ อย่างมาตั้งแต่เด็กตามธรรมชาติของเด็กผู้หญิง และการใช้อารมณ์นำเหตุผลนี้ก็ติดตัวมาจนโตนั่นเอง
8. ผู้ชายเครียดกับปัญหาต่าง ๆ มากกว่าผู้หญิง
เพราะในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต ผู้ชายมักจะต่อสู้และหาทางออกกับมันด้วยตัวเอง และมักจะจมอยู่กับปัญหานั้นจนกว่าจะแก้ไขได้ พวกเขาจึงตกอยู่ในภาวะเครียดได้อย่างง่ายดาย แตกต่างจากผู้หญิง ที่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาเมื่อไร พวกเธอก็มักจะหันหน้าเข้าหาสังคมกว้างใหญ่ ไปพบปะเหล่าเพื่อนฝูงทั้งหลายที่พวกเธอมี จากนั้นพวกเธอก็ระบายความรู้สึก เปิดเผยปัญหาที่กำลังเผชิญให้กับเพื่อน ๆ ได้รับฟัง จนกระทั่งพวกเธอรู้สึกสบายใจว่ามีใครหลาย ๆ คนรับรู้และกำลังเป็นกำลังใจให้ จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ออกไปใช้ชีวิตแก้เครียดกับเพื่อนฝูง ทุกครั้งที่พวกเธอมีปัญหา ขณะที่ผู้ชายมักจะเก็บตัวหายเข้ากลีบเมฆในช่วงเวลาเดียวกันนี้
อย่าง ไรก็ดี แม้ว่าขนาดและลักษณะของสมองจะแยกชายออกจากหญิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเราจะมีสมองตรงกับสรีระและเพศของตัวเองเสมอไป โดยที่ผ่านมา มีหลากหลายงานวิจัยเปิดเผยว่า ผู้ชายสามารถมีลักษณะสมองเหมือนผู้หญิงได้ ขณะเดียวกันผู้หญิงก็สามารถมีลักษณะสมองเหมือนกับผู้ชายได้เช่นกัน และนั่นจึงทำให้ผู้ชายบางคนแสนอ่อนไหว เจ้าน้ำตา และเจ้าอารมณ์เหมือนกับผู้หญิง ขณะที่ผู้หญิงบางคนก็เข้มแข็ง กดเก็บอารมณ์ และใช้เหตุผลนำทุกอย่างได้เฉกเช่นผู้ชายเช่นกัน