ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความเชื่อชนิดที่คิดกันเป็นตุเป็นตะว่าเป็นวันแห่งความโชคร้าย ซึ่งความเชื่อที่ว่าก็คือถ้าวันศุกร์เกิดไปตรงกับวันที่ 13 ของเดือนใดก็ตามจะกลายเป็นวันแห่งความโชคร้ายนั้นเป็นความเชื่อที่อยู่ในบรรดาชาติที่พูดภาษาอังกฤษทั่วโลก และยังขยายไปถึงชาติอื่นๆ อีกด้วย และในประเทศบางประเทศอย่าง กรีซ สเปน ถือเอาวันอังคารที่ 13 เป็นวันโชคร้ายเช่นกัน
หลักๆ แล้วจุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่องนี้เชื่อมโยงกับความเชื่อที่ว่ามีคน 13 คน ร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู (The Last Supper) ก่อนที่พระองค์จะถูกนำตัวไปตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ (ทั้งนี้ มีการบันทึกเอาไว้ในศตวรรษที่ 18 โดยเชื่อกันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คน 13 คนมานั่งทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกันแล้ว คนที่ลุกจากโต๊ะไปเป็นคนแรกจะเป็นคนแรกที่ต้องตาย) แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดที่ชี้ชัดเป๊ะๆ ว่าประชาชนถือเอาว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้าย ไทยรัฐออนไลน์รวม 13 เรื่อง ของวันศุกร์ 13 มาให้สยองกัน.
1. บางตำราเชื่อว่าอาถรรพ์ศุกร์ 13 มาจากตำนานของ "ชาวนอร์ส" ที่อาศัยอยู่ในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นเรื่องของเทพ 12 องค์ มารวมจัดงานเลี้ยง
ในห้องโถงเอกีร์ (เทพแห่งมหาสมุทร) แล้วเทพแห่งไฟ "โลกิ" ซึ่งไม่ได้รับเชิญมาร่วมงาน จึงพังประตูรั้วเข้ามาในฐานะแขกคนที่ 13 และให้เทพฮอด (เทพแห่งความมืดมิด เพราะตาบอด) โยนกิ่งพืชกาฝากใส่บาลเดอร์ (เทพแห่งความสุขความยินดี) จนบาลเดอร์เสียชีวิตในที่สุด
2. เลข 13 ถือเป็นเลขแห่งความโชคร้าย ใครที่เกี่ยวข้องกับเลขนี้ก็เชื่อกันว่าจะมีแต่ความวิบัติในชีวิต ถือเป็นเลขที่สร้างความหวาดกลัวอย่างมาก จนมีคนคิดบัญญัติศัพท์เลยทีเดียว โดยเรียกคนที่หวาดกลัวอาถรรพ์ศุกร์ 13 ว่า Paraskevidekatriaphobia มาจากภาษากรีก 3 คำคือ วันศุกร์ (Paraskevi) สิบสาม (dekatreis) และความหวาดกลัว ( Phobos)
3. ในวันศุกร์ที่ 13 อเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงินเกือบพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากประชาชนจำนวนหนึ่งไม่กล้าเดินทาง