รุมฉะผลศึกษาคอป. ไม่มีสไนเปอร์ ทั้งที่มีภาพปรากฏซุ่มยิงผู้ชุมนุมเต็ม ยอดตึก รวมทั้งไม่พูดถึงประชาชนที่เสียชีวิต ชี้หวังช่วยศอฉ.พ้นผิด เทพเทือก ท้าเหยงธาริต รีบแจ้งข้อหาฆาตกรรม ยันพร้อมสู้ถึงฎีกา ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็นจี้รัฐบาลเอาผิดคนบงการฆ่า 98 ศพ หลังผลศึกษาคอป.ออก "เดียร์" เปิดรูปชุดดำถือปืนยืนคู่ทหาร ระบุแฝงตัวมาป่วนที่ชุมนุม
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่ารายงานของคอป.ไม่มีหลักฐานชัดเจนเรื่องชายชุดดำ และไม่ได้กล่าวอ้างถึงพลซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ ทำให้หลักฐานของคอป. ไม่มีความน่าเชื่อถือ และมีเจตนาจงใจช่วยเหลือ ศอฉ.โดยวางน้ำหนักไปที่ชายชุดดำและพยายามแสดงให้เห็นว่าทหารปฏิบัติหน้าที่โดยชอบธรรม ทั้งที่มีพยานชาวต่างชาติหรือตำรวจก็เห็นว่าไม่มีชายชุดดำ แต่ คอป.ไม่มีหลักฐานหรือภาพถ่ายว่ามีชายชุดดำจริง จึงเชื่อว่าประชาชนจะพิจารณาได้เองว่าความจริงคืออะไร
นพ.เหวงกล่าวว่า รายงานที่ออกมายังตรงข้ามกับที่ศาลอาญามีคำสั่งคดีนายพัน คำกอง ว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ระบุว่าในวันที่ 15 พ.ค.53 ซึ่งนายพัน ถูกยิงเสียชีวิต ไม่พบมีชายชุดดำบริเวณสี่แยกมักกะสัน ไม่มีผู้ร้ายยิงใส่ทหาร ซึ่งฉีกหน้ารายงานของนายสมชาย หอมลออ ที่ระบุว่าระหว่างวันที่ 14-18 พ.ค. 53 มีชายชุดดำใช้อาร์พีจี บริเวณสี่แยกมักกะสัน บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ถามว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่มีการยิงกันช่วงเวลาดังกล่าวแต่หยุดยิงในวันที่ 15 พ.ค. และเพียงกรณีนี้ก็เห็นชัดว่าคำสั่งศาลหักล้างกับรายงานอย่างสิ้นเชิง
ซัดไม่ตรวจสอบสไนเปอร์
นพ.เหวงกล่าวว่า นอกจากนี้รายงานที่ระบุว่ามีชายชุดดำ อยู่เลียบกำแพงวัดปทุมวนาราม หรือมีกลุ่มคนยิงสู้กับทหาร แต่กลับไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน จึงเป็นการกล่าวอย่างเลื่อนลอย เปรียบเหมือนกับที่ต่างคนออกมาพูดว่าพบรอยน้ำแข็งบนดาวอังคาร แต่กลับไม่เคยมีใครนำภาพว่ามีจริงมาเปิดเผย โดยเฉพาะเรื่องสไนเปอร์ ที่มีพยานหลายคนพบเห็น ทั่วโลกก็เห็นว่ามีจริง แต่คอป. ไม่หาหลักฐาน ไม่ตรวจสอบสถานที่ตึกสูง ซึ่งมีผู้ระบุว่าพบเห็นสไนเปอร์ เช่น บริเวณโรงแรมดุสิตธานี ยอดตึกร.พ.จุฬาลงกรณ์ ตึกอื้อ จื่อเหลียง ตึกชาญอิสระ ถนนพระราม 4 ทั้งที่มีภาพถ่ายจากสื่อ พยานแวดล้อม อยู่บริเวณตึกชาญอิสระ รวมไปถึงบริเวณถนนตะนาวใกล้สี่แยกคอกวัว หรือที่หน้าธนาคารออมสิน อีกประเด็นคือไม่พูดถึงกระสุนที่มีการเบิกใช้ 1.2 แสนนัด และกระสุนสไนเปอร์ 2,800 นัด มาใช้ในการสลายการชุมนุม
มึนว่อนเน็ต-คอป.ไม่เห็น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รายงานคอป. เป็นจินตนาการ นอกจากจะกล่าวถึงชายชุดดำโดยขาดพยานหลักฐานแล้ว ยังไม่มีการระบุถึงพลซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ด้วย ซึ่งต่างจากที่ศาลตัดสินคดีนายพัน คำกอง ว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการพิสูจน์การเสียชีวิตตาม ป.วิอาญา ม.150 ว่าใครเสียชีวิต ใครทำให้เสียชีวิต และเสียชีวิตด้วยอาวุธอะไร ถือเป็นกระบวนการพิสูจน์การเสียชีวิตตามหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ รู้สึกแปลกใจที่มีคลิปภาพของพลซุ่มยิงทั้งจากเว็บไซต์ในประเทศและต่างประเทศปรากฏออกมามากมาย แต่กลับไม่มีในรายงานของ คอป. ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ประชาชนไม่สามารถหาความจริงใดๆ ได้จากรายงานของ คอป.
เดียร์โพสต์รูปชุดดำกับทหาร
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือเดียร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลูกสาวพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว https://twitter.com/Dear_Khattiya แสดงหลักฐานภาพถ่ายเจ้าหน้าที่ยืนคู่ชายชุดดำ ที่ถืออาวุธปืน และคนเสื้อแดงที่เป็นทหาร พร้อมระบุว่า การที่คอป.เลือกแถลงรายงานวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งคดีนายพัน คำกอง เพื่อต้องการทำลายน้ำหนักคำสั่งศาล และกลบกระแสข่าว แล้วโยนบาปให้พล.ต.ขัตติยะ ที่ไม่สามารถชี้แจงได้ รูปที่นำมาแสดงเพื่อให้คอป.เห็นว่าชายชุดดำเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ ที่ถูกส่งเข้ามาปลอมปนแล้วสร้างสถาน การณ์