"โฮสต์บาร์" ความสุขแบบ"ไม่ลับ"ของผู้หญิงเกาหลีใต้ผู้เปลี่ยวเหงา

 

การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของเกาหลีใต้ อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในโครงสร้างสังคมแบบอนุรักษ์นิยม ซึ่งรวมถึงการเติบโตของสิ่งที่เรียกว่า "โฮสต์ บาร์" ที่สตรีที่มีฐานะดี มักจะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อหาความสุขกับชายหนุ่มหน้าตาดี

 

 

 

 

ในห้องใต้ดินของอาคารในย่านกังนัมของกรุงโซล ชายหนุ่มหน้าตาดี ที่มาพร้อมกับการแต่งตัวและทรงผมที่คล้ายหลุดมาจากวงบอยแบนด์ชื่อดัง กำลังนั่งรอลูกค้าในห้องที่มีแสงไฟเพียงสลัวๆ

 

ก่อนหน้านี้ เราอาจเคยรู้จักคำว่าเกอิชา ในภาษาญี่ปุ่น หรือกีเซ็ง ในภาษาเกาหลี ซึ่งคือหญิงสาวผู้ให้ความบันเทิงแก่ชายในสังคมเกาหลีโบราณ แต่ปัจจุบัน บทบาทได้เปลี่ยนไป เพราะลูกค้าทั้งหมดคือผู้หญิง

 

ที่บาร์ 123 หนึ่งในร้านโฮสต์ บาร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่ที่ลูกค้าสตรีสามารถเลือกชายหนุ่มที่เธอพอใจให้มาเป็นเพื่อนนั่งดื่ม ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เงินจำนวนมาก

 

มิงยอง เป็นลูกค้าสาวสวย แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย เธออาจดูไม่เหมือนคนที่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราวเช่นนี้ แต่เสน่ห์บางอย่างของที่นี่อาจเป็นข้อยกเว้น เธอกล่าวว่า ที่นี่ ทำให้เธอดูมีทางเลือกมากขั้น ได้รับความสนใจมากขึ้น และควบคุมได้มากขึ้น

 

มินยองกล่าวว่า หากเธอนั่งดื่มตามบาร์ปกติ ก็จะมีแต่ชายหนุ่มที่หวังมีอะไรกับเธอแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการ แต่สิ่งที่เธอต้องการคือความหรรษาเธอจึงเลือกมาที่นี่

 

ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นโฮสต์ จะถูกจ้างโดยบาร์แต่ละแห่ง จะต้องทำหน้าที่สร้างความบันเทิงและความสนิทสนมกับลูกค้า และมีหน้าที่อย่างเป็นทางการก็คือ รินเครื่องดื่มให้ลูกค้า พูดคุย เต้นรำ หรือไม่ก็ร้องคาราโอเกะเป็นเพื่อน

 

อย่างไรก็ดี "เซ็กซ์" ไม่ได้ถือเป็นข้อเสนออย่างเป็นทางการในโฮสต์บาร์ส่วนใหญ่ และถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมินยองอยากจะลองถูกเนื้อต้องตัวหรือเกี่ยวพาราสีโฮสต์ของเธอ ขณะที่โฮสต์มากกว่าครึ่งก็ทราบดีว่า ลูกค้าเองก็พร้อมที่จะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อการนั้น ไม่ว่ามันจะอยู่ในข้อเสนอที่ตกลงกันไว้เบื้องต้นหรือไม่ก็ตาม

 

 

 

 

"เจมส์" ทำงานที่บาร์ 123 มานาน 2-3 ปี เขากล่าวว่า ในวัฒนธรรมแบบเกาหลี ยังคงยึดถือศักดิ์ศรี และการต่อรองราคาเพื่อขอมีเซ็กซ์จะต้องไม่ทำกันอย่างโจ่งแจ้ง และที่สุดแล้วราคาก็จะเป็นไปตามการตีราคาของตัวโฮสต์เอง เขากล่าวว่า โอสต์ที่นี่มีความเป็นมืออาชีพ "เรารู้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่"

 

เจมส์กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับลูกค้าสักชั่วโมง ก็จะทราบได้ว่าลูกค้ารายนั้นทำงานอะไรและมีรายได้ประมาณไหน แต่ละคนก็จะต้องพิจารณาด้วยตัวเอง ทั้งบุคลิกส่วนตัวของลูกค้า และความสามารถในการให้ของพวกเธอ

 

เจมส์และโฮสต์คนอื่นๆ เปิดเผยว่า ลูกค้าของพวกเขายังรวมถึงบรรดาชนชั้นสูงของเกาหลีใต้ และเงินหรือข้อเสนอที่พวกเธอเสนอก็สูงมากจนไม่น่าเชื่อ โดยลูกค้ารายหนึ่งที่เขาพบในช่วงที่ทำงานแรกๆ เสนอให้เขาเซ็นสัญญา และเขียนตัวเลขลงในกระดาษเปล่าใบหนึ่ง ว่าจะให้บริการแก่เธอคนเดียวเป็นเวลานาน 2 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่าเป็นแค่มุขตลก แต่พบภายหลังว่า ผู้หญิงคนเดียวกันนั้น ให้เงินกับโฮสต์อีกคนหนึ่งเป็นเงินถึง 97,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

การเติบโตของธุรกิจนี้ สอดคล้องอย่างยิ่งกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของเกาหลีใต้ ภายใน 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศได้ยกระดับจากสภาพแพ้สงครามมาเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี หรือประเทศพัฒนาแล้วที่ยอมรับระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการค้าเสรี


แต่จากข้อมูลของแจสเปอร์ คิม จากองค์กรวิจัยเอเชีย-แปซิฟิก โกลบัล รีเสิร์ชในกรุงโซล เปิดเผยว่า บางประเด็นที่มีความสำคัญได้หล่นหายไประหว่างช่วง 50 ปีที่ผ่านมา การเติบโตที่รวดเร็วมักมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นกัน และชาวเกาหลีก็ไม่ทราบว่าจะรับมือกับมันอย่างไร ระบบทุนนิยมได้เข้าครอบงำค่านิยมทางสังคมแบบเดิมที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายทศวรรษก่อน

 

คิมกล่าวว่าค่านิยมบ้างานทำให้ชาวเกาหลีทำงานวันละหลายชั่วโมงและทำให้ผู้หญิงทำงานจำนวนมากเกิดอารมณ์เหงาโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ความเจริญด้านเทคโนโลยี ยิ่งทำให้คนจำนวนมากถูกตัดขาดออกจากสังคมมนุษย์มากขึ้น

 

องค์ประกอบของมนุษย์ของสังคมเกาหลีที่เคยมีอยู่ในสมัยก่อนอาจไม่มีอยู่แล้วในสังคมปัจจุบันคนมุ่งแต่ความเจริญทางเทคโนโลยี แสวงหาหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า และเริ่มตัดขาดความสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันเองมากขึ้นทุกที คิมกล่าวว่า นี่ทำให้เธอนึกถึงสังคมอเมริกันในช่วงยุค 1960 ที่เกิดการบิดผันของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมอย่างรุนแรง

 

คิม ดอง-ฮี อดีตโฮสต์ บาร์ที่มีชื่อเสียง ยอมรับว่า ผู้หญิงหลายคนมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะพวกเธอกำลังแสวงหาเซ็กซ์ แต่พวกเธอกำลังมองหาความสัมพันธ์บางอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าตลาดเมนสตรีม ที่เรียกว่า "เรด โมเดล บาร์"

 

 

 

 

เขากล่าวว่า ผู้ชายมักต้องการความสุขผ่านการมองเห็น และต้องการรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างซึ่งรับรู้ได้ด้วยการสัมผัส ขณะที่ผู้หญิงต้องการความสุขผ่านพูดและได้ยิน นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาเปิดบาร์ที่เรียกว่าบาร์เพื่อการสนทนา

 

เรด โมเดล บาร์ จะมีความแตกต่างจากโฮสต์บาร์อื่นๆที่เคยมีมา ซึ่งมีกฎเหล็กหนึ่งข้อที่โฮสต์ต้องยึดถือ นั่นก็คือ ลูกค้าและผู้ให้บริการ"ห้าม"สัมผัสร่างกายกันเด็ดขาด ซึ่งรวมถึงการห้ามมีเซ็กซ์ โดยโฮสต์จะนั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ ลูกค้าจะนั่งอีกฟากหนึ่ง

 

บางที อันเนื่องมาจากผลของการขาดการมี"ความนัย"ต่อกัน ระหว่างผู้ที่ใช้บริหารและผู้ให้บริการ ที่นี่บรรยากาศของร้านจึงถูกตกแต่งให้เป็นไฟสีแดงสลัว มีการแบ่งห้องแบบหลวมๆ และแน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายจะถูกกั้นโดยโต๊ะขนาดใหญ่

 

โมเดลธุรกิจแบบใหม่นี้ มีลูกค้าหญิงที่พร้อมจะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้สนทนา พร้อมร่วมดื่มกับโฮสต์หนุ่มหน้าตาดีเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และดูเหมือนจะไปได้สวย โดยจะมีการเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาภายในปีนี้

 

คิม นายู อาชีพรับจัดดอกไม้ เลือกที่จะนั่งที่นั่งประจำของเธอ ตรงสุดเคาน์เตอร์บาร์ เธอเป็นลูกค้าประจำและมาที่นี่แทบทุกวันที่มีโอกาส เพื่อมาพูดคุยกับโฮสต์ประจำของเธอ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน โดยเธอจะต้องจ่ายเงินให้กับการได้ระบายออกซึ่งความเครียดเป็นเงินกว่า 487-650 ดอลลาร์ต่อวัน

 

แม้จะเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก และเห็นว่าการได้พูดคุยกับเพื่อนอาจจะแทบไม่ต้องเสียอะไร แต่เธอเห็นว่า เพื่อนของเธอมักไม่ค่อยรับฟังปัญหาอะไรมากนัก แต่กลับเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง สำหรับที่นี่ มีคนสนใจที่จะรับฟังปัญหาของเธออย่างตั้งอกตั้งใจมากกว่า

 

เธอกล่าวว่า แม้จะต้องจ่ายเงินมากโขอยู่ แต่เทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกทางอารมณ์ที่เธอได้รับ บางคนเลือกที่จะไปหาจิตแพทย์เพื่อระบายความเครียด แต่เธอเลือกที่นี่ เพราะดูจะเครียดน้อยกว่า

 

ซุง-อิล ซึ่งเป็นโฮสต์คนโปรดของนายูกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะแยกเรื่องส่วนตัวของเขากับงานที่ทำอยู่ ด้วยความสัตย์จริง เขาอาจกล่าวเท็จหากบอกว่าไม่รู้สึกอะไรหรือคิดไปไกลกับลูกค้าบางราย เพราะเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง มนุษย์คนหนึ่ง แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ

 

เขายอมรับว่า คนที่ทำอาชีพโฮสต์ ไม่มีใครปกปิดอาชีพที่แท้จริงของตนเอง และลูกค้าก็ควรต้องเปิดเผยเรื่องนี้เช่นกัน

ความเปิดเผยในยุคสมัยใหม่เช่นนี้ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของสังคมเกาหลี แตกต่างจากยุคก่อนๆที่การใช้บริการเช่นนี้ ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในโลกเร้นลับ ที่ต้องปิดบังจากสังคมภายนอก หรืออาจถูกมองว่าเป็นเพียงโสเภณีชาย

 

 

การ"ให้ความเคารพ"ต่อเพศแม่ ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ท้าทายความเชื่อแบบเดิมๆต่อบทบาททางเพศระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย และการบริหารพลังทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย และคำถามที่บาร์เหล่านี้มีต่อสังคมเกาหลี ก็เริ่มยากที่จะปฏิเสธเข้าไปทุกที

 

19 ก.ย. 55 เวลา 15:39 6,592 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...