เมื่อวันที่ 16 ก.ย.55 ที่วัดพลับ เยื้องประตูพลแสน เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา กลุ่มมิตรสัมพันธ์ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ ครั้งที่ 12 เพื่อนำโลงศพจำนวนกว่า 2 พันใบ ไปแจกจ่ายให้กับวัด มูลนิธิ สมาคม และองค์กรการกุศลต่างๆ ในเขตภาคอีสาน ที่ได้แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาค กิจกรรมสำคัญ ได้ถือฤกษ์ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 จัดทำเตรียมโลงศพ 39 หีบ เพื่อให้พี่น้อง ประชาชน ร่วมสืบชะตาสะเดาะเคราะห์นอนในโลงศพ และรับการประพรมน้ำมนต์ จากพระเกจิอาจารย์ดัง 108 วัด ภาคอีสาน ซึ่งตามตำราโหรศาสตร์ที่ระบุว่าชายที่เกิดในปี จอ มะแม มะโรง และ ฉลู หญิงที่เกิด ในปีวอก กุล ขาล และมะเส็ง  ดวงชะตาชีวิตจะมีเคราะห์ จึงควรจะสะเดาะเคราะห์โดยนอนในโลงศพ เพื่อจะทำให้เกิดความเป็นมงคลในชีวิต

  โดยท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา มีพี่น้อง ประชาชน หลายพันคน ทยอยเดินทางมาร่วมทำบุญ พร้อมกับแจ้งความประสงค์ขอนอนในโลงศพ เพื่อสะเดาะเคราะห์ นักเรียนโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน ( ร.ด. ) ได้จัดคิวให้ตามลำดับ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 13.30 น. ซึ่งพิธีการนอนโลงศพ จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที มีพระสงฆ์ 4 รูป สวดบังสุกุลตาย ให้ผู้ที่นอนในโลงศพ ซึ่งต้องนอนหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก จากนั้นพระสงฆ์ก็จะสวดบังสุกุลเป็น พรมน้ำมนต์ พร้อมให้ศีล ให้พร เป็นขั้นตอนสุดท้าย นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดตั้งเต้นโรงทาน มีการบริการอาหารเครื่องดื่ม รองรับพี่น้อง ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานบุญในครั้งนี้ 
    
                   นายวิชัย  นันทธนถาวร ประธานกลุ่มมิตรสัมพันธ์ กรุงเทพฯ-นครราชสีมาเปิดเผยว่า กลุ่มมิตรสัมพันธ์ฯ ได้จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีหีบศพเพื่อมอบให้กับผู้ยากไร้และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีพิธีทอดผ้าป่าหีบศพ เพื่อผู้ยากไร้แล้ว ยังจัดให้มีพิธีสะเดาะเคราะห์แก่ประชาชนทั่วไปโดยวิธีการลงไปนอนในโลงศพ ซึ่งได้จัดเตรียมโลงศพไว้ จำนวน 39 หีบ เป็นโลงศพที่จัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษที่จะใช้สำหรับการสะเดาะเคราะห์โดยเฉพาะ โดยพิธีจะเริ่มจากการให้คนลงไปนอนในโลงศพแล้วเจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลงจากนั้นจะเป็นพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายโดยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นผู้ประกอบพิธีให้ และสุดท้ายผู้ที่ลงไปนอนในโลงศพจะได้รับการประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ที่นำมาจากวัดชื่อดังต่างๆทั่วประเทศรวม 108 วัด โดยการสะเดาะเคราะห์ครั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และทางผู้จัดงานยังจะมีการบรรจุน้ำพระพุทธมนต์จาก 108 วัด ใส่ถุงพลาสติกแจกจ่ายแก่ประชาชนที่มาร่วมงาน 
    
                   พิธีสะเดาะเคราะห์โดยการลงไปนอนในโลงศพเป็นความเชื่อมาแต่โบราณว่า หากผู้ใดที่มีเคราะห์ มีวิบากกรรม มีปัญหาขัดข้องหรือมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตในช่วงระยะเวลาและในปีดังกล่าว ถ้าหากได้กระทำพิธีสะเดาะ เคราะห์ด้วยการลงไปนอนในโลงศพแล้วมีพระสงฆ์ประกอบพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย เหมือนพิธีสวดอภิธรรมศพคนตายและประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ให้ก็จะเป็นสิริมงคลที่ดีแก่ชีวิต เป็นการขจัดปัดเป่าปัญหา อุปสรรคและภัยอันตรายทั้งปวง จะทำให้ชีวิตของผู้นั้นดีขึ้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ และเชื่อว่า สิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ตายไปกับคนเก่าแล้ว ต่อไปนี้ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำแต่ในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคมและประเทศชาติ