เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ทางมูลนิธิอนุรักษ์ช้างภาคเหนือ โดยนางแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิฯ ได้เปิดเผยว่า มีพระสงฆ์ไทย ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปให้ข่าวและนำผู้สื่อข่าวต่างประเทศ นิตยาสารชื่อดัง เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ไปดูแหล่งแกะสลักงาช้างทำวัตถุมงคลและหนังช้างและออกมาพูดถึงขบวนการฆ่าช้าง ในประเทศไทย และยังอวดอ้างตัวเองว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ และทำพิธีปลุกเสกหนังช้าง และวัตถุมงคลที่ทำจากงาช้าง รายได้เดือนละหลายล้านบาท แถมยังโพสท่า ให้สื่อต่างประเทศได้ถ่าย ในท่าต่างๆ เช่นยืนอยู่บนหลังช้าง ยกมือขึ้นเหมือนว่า มีอิทธิฤทธิ์ ได้รับพลังจากฟากฟ้า โดยนิตยสารต่างประเทศ ได้นำคำสัมภาษณ์ ของพระสงฆ์ดังกล่าวที่ออกมาพูด เปิดโปงตัวเอง นำเสนอไปทั่วโลก และยังได้เผยแพร่คลิปบนเว็บไซต์ยูทูบ โดยนายไบรอัน คริสตี้ ผู้สื่อข่าวนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก เป็นผู้ทำข่าวและนำเสนอเรื่องนี้
โดยนิตยสารดังกล่าวได้เปิดโปงขบวนการซื้อและวัตถุประสงค์การใช้งาช้าง ที่ต้องฆ่าช้าง และการไล่ล่าช้าง เพื่อเอาหนังและงาช้างมาทำวัตถุมงคล โดยพระสงฆ์ไทย และพระสงฆ์ที่ออกมาให้ข่าว พาผู้สื่อข่าวต่างประเทศไปชมสถานที่การแกะสลักที่โรงงาน ครูบาธรรมมุนี หรือพระช้าง แห่งวัดป่ามหาสารคามธรรมมุนี จ.มหาสารคาม การเผยแพร่ของนิตยสารดังกล่าว นั้น ได้เปิดโปงพฤติกรรมของพระสงฆ์ไทย ที่มีส่วนร่วมในขบวนการฆ่าช้าง และซื้อขายช้างอย่างโหดเหี้ยม แต่พระสงฆ์รูปดังกล่าว กลับเข้าใจผิดให้ข่าวพร้อมทั้งพาผู้สื่อข่าวต่างประเทศชม โดยคิดว่า เป็นการโปรโมตวัตถุมงคลและชื่อเสียงของตนเอง
นางแสงเดือน เผยอีกว่า การนำงาช้าง มาทำเครื่องรางของขลัง ของพระสงฆ์แค่คิดก็ผิดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า สอนให้คนงดฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สอนให้มีความเมตตาต่อสัตว์ แต่การใช้ชิ้นส่วนของสัตว์ มาเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาของพระสงฆ์ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ข่าวของนิตยาสารดังกล่าวได้เผยแพร่ไปแล้วทั่วโลก และยังจัดให้ประเทศไทยเราติดรายชื่อฉาว เรื่องการฆ่าช้าง รองจากแอฟริกา มาเลยเซีย อินโดฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยาสารดังกล่าวยังได้ระบุว่า ประเทศไทยนั้นเมื่อปีที่แล้วพระสงฆ์ไทยได้เผยว่าช้างที่ถูกไล่ล่าและฆ่า จากประเทศเพื่อนบ้านและในไทย รวมทั้งสิ้น 25,000 ตัว มาปีนี้ การไล่ล่าถูกลดลงเนื่องจาก สื่อไทยตีข่าวเรื่องการฆ่าช้าง และไล่ล่าช้าง เอามาขาย ทำให้ การล่าช้าง และรายได้ของพระสงฆ์ดังกล่าวต้องหยุดชะงักไปชั่วคราว จากเดือนละหลายล้าน เหลือเพียงไม่กี่แสน จากการทำวัตถุมงคลจากงาช้าง และหนังช้าง โดยโรงงานแหล่งแกะสลักงาช้าง และทำผ้ายันต์หนังช้าง นั้น อยู่ที่ อ.พะยุหครี จ.นครสวรรค์ และ ที่ จ.สุรินทร์ โดยพระสงฆ์ดังกล่าว ได้พาสื่อต่างประเทศไปชมและถ่ายทำ พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ ข่าวอย่างละเอียด