มี 2 สถานการณ์นอกบ้านที่เราควบคุมไม่ได้แต่ส่งผลกระทบมาถึงเราเต็มๆจังๆ อันแรกเพราะคนอเมริกันเชื้อสายยิวคนเดียวสร้างหนังที่ถูกมองว่าหมิ่นศาสดาศาสนาอิสลามเป็นเหตุประท้วงใหญ่ เริ่มร้อนแรงจากลิเบียบุกถล่มสถานทูตอเมริกาสังหารทูตและเจ้าหน้าที่ทูตจากนั้นก็ลุกลามไปทั่ว
เป้าทำลายขยายจากอเมริกาเป็นหลายประเทศยุโรปโดนคุกคามด้วย อยู่ในบรรยากาศเผชิญหน้ารุนแรงอีกครั้งระหว่างมุสลิมกับชาติตะวันตก กระทบเราคือราคาน้ำมันดิบพุ่งกระฉูด
อีกสถานการณ์ซึ่งเป็นเรื่องดี QE3 มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณครั้งที่ 3 เรียบเรียงแบบฟังง่ายขึ้นก็มาตรการผ่อนปรนทางการเงินซึ่งธนาคารกลางสหรัฐเพิ่งประกาศ
เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจภายในฟื้นตัวต้วมเตี้ยมประกอบกับวิกฤติหนี้ในยุโรปยังพะงาบอยู่ในห้องไอซียู มาตรการนี้ว่ากันว่าเป็นยาแรงเหนือความคาดหมาย นั่นคือไม่จำกัดวงเงินพร้อมๆกับไม่อยู่ในกรอบเวลาสิ้นสุดจนกว่าการเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเห็นผล การจ้างงานจะดีขึ้น
เงินอัดฉีดจากธนาคารกลางสหรัฐช่วงแรกๆอาจสูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนหนึ่งเอาไปซื้อพันธบัตรส่วนหนึ่งไปลงทุนในหลักทรัพย์
ต่างจากจลาจลต่อต้านหนังหมิ่นศาสนาก็ตรงอันหลังสร้างผลกระทบต่อบ้านเราสูงกว่ามาก ที่เหมือนกันได้แก่เป็นแรงกระตุ้นให้น้ำมันดิบแพงล่าสุดทะลุเพดานที่เคยแพงในรอบ 4 เดือน
เพียงแต่ QE3 มีของแถมหนักๆตามมาขบวนใหญ่...
ราคาทองคำบวกรุนแรงตามตลาดโลก น่าติดตามก็ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งของเราโลดเต้นไปตามตลาดโลกเช่นเดียวกัน ในย่านเอเชียนับว่าเนื้อหอมสุดเม็ดเงินที่ทางสหรัฐอัดฉีดเข้ามาน่าจะก้อนใหญ่ไหลมาทางภูมิภาคนี้เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงและชัวร์เมื่อเทียบกับยุโรปหรือ ฯลฯ
เม็ดเงินรอบุกตลาดทุนและตลาดหุ้นไทยผู้สันทัดกรณีเชื่อเป็นคำใหญ่ ความเชื่อมั่นค่อนข้างแข็งแกร่งด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจมั่นคงผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองและภัยธรรมชาติมาโชกโชน-เราเอาอยู่
ว่าด้วยตลาดหุ้น สัปดาห์หน้าบ้านเราคงไปต่อเพราะสัดส่วนกำไรต่อหุ้นเมื่อเทียบมูลค่าของเราจัดว่าน่าลงทุนกว่าหลายตลาดเพื่อนบ้าน
นั่นคือน้ำผึ้งหวานหอม ยาพิษอยู่ไหน?
น่าจะ 2 เรื่องใหญ่ อันแรกค่าเงินบาทอาจแข็งค่าจนเกิดผลกระทบต่อภาวะส่งออกสินค้าของไทยซึ่งอาการไม่สู้จะดีอยู่แต่เดิมอันเป็นมลพิษจากเศรษฐกิจยุโรป อีกเรื่องเรามีประสบการณ์เจ็บปวดมาแล้ว เศรษฐกิจฟองสบู่หรือลูกโป่ง เงินไหลมาเยอะแยะใช้จ่ายสนุกสนานก่อนหายนะไม่ทันตั้งตัว
ในสภาพที่เป็นไม่น่าจะไปถึงจุดนั้นเพราะเรามีธนาคารแห่งประเทศไทยมีกระทรวงการคลังติดตามดูอยู่ใกล้ชิด ป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
โลกวันนี้มองในแง่ดีอย่างเดียวก็อันตราย ขณะชื่นมื่น QE3 ก็ต้องย้อนคิดนั่นแปลว่า QE2 ใส่ไป 6 แสนล้านดอลลาร์ 2 ปีก่อนเอาไม่อยู่ใช่ไหม? ฉะนั้น อย่าฝันหวานเพลิน.
แมงเม่า