ตร.ภาค 5 จับคนร้ายชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ พื้นที่เชียง ใหม่ อายุเพิ่ง 21 ที่แท้เป็นสมาชิกแก๊งออกตระเวนข่มขู่รีดเงินผู้ประกอบการร้านค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แฉเป็นลูกน้องพ.ต.ท.คนดังภาคเหนือ ว่างจากงานรีดทรัพย์หลังถูกร้องเรียนหนัก ทำให้แก๊งต้องหยุดงานชั่วคราว จึงหันปล้นเซเว่นฯ แทน ใช้อาวุธทั้งปืนและมีด ลงมือมาตั้งแต่ปี?53 ย่ามใจขนาดไม่สวมหมวกกัน น็อกก็มี นกรู้ถูกตามจับตัว เผ่นหนี โผล่อีกทีในคลิปที่มีคนถ่ายไว้ขณะกำลังรีดเงินร้านเกมส์ในจ.บุรีรัมย์ ตร. 2 พื้นที่ประสานรวบตัวได้ในที่สุด ระบุเป็นสมาชิกขบวนการที่ทำทีเข้าจับการละเมิดลิขสิทธิ์ จากนั้นข่มขู่รีดเงิน มีพ.ต.ท.เป็นหัวหน้าชุดหาเหยื่อให้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่สำนัก งานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.ธวัชชัย อยู่มาก ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ โดยผู้ต้องหาคือ นายระพี หรือพี คุดค่ำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/34 หมู่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งจับกุมตัวตามหมายจับเลขที่ 376/2555 ลงวันที่ 12 ก.ค.2555 โดยชุดสืบสวน บช.ภ.5 จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 159/73 หมู่บ้านอนุสารวิลล่า หมู่ 10 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากนายระพีย้อนกลับมาในพื้นที่จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.สุเทพเปิดเผยว่า ในช่วงปี 2553-2555 มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวนหลายแห่งในช่วงเวลากลางคืน โดยพฤติการณ์จะใช้อาวุธปืนหรืออาวุธมีดข่มขู่พนักงานเพื่อง่ายต่อการชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สัญจรไปมาช่วงเวลากลางคืน ตนจึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ประสานไปยังตำรวจท้องที่สืบสวนสอบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาให้ได้ และต่อมาชุดสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ สาขาปตท.บิ๊กซี ดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2553 คือนายระพี จึงได้สืบสวนและหาหลักฐานพยานจนแน่ชัด แล้วขอหมายจับนายระพีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยในครั้งนั้นนายระพีได้หลบหนีออกจากพื้นที่
ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า ต่อมาช่วงเดือนส.ค.2555 มีข่าวชายลักษณะคล้ายนายระพีปรากฏในคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูบเข้าไปตรวจสอบตามร้านเกมส์ในจ.บุรีรัมย์ ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่า ชายฉกรรจ์ดังกล่าวเข้าไปข่มขู่และพยายามรีดเงิน ชุดสืบสวนภาค 5 จึงประสานข้อมูลไปยังพื้นที่จ.บุรีรัมย์ จนทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในขบวนการกลุ่มแก๊งจับลิขสิทธิ์ปลอมและเข้าไปข่มขู่รีดทรัพย์ผู้ประกอบการจริง และทราบว่านายระพีได้กลับมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่จ.เชียงใหม่ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว โดยนายระพีหากว่างจากการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมการละเมิดลิขสิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ แล้ว จะทำตัวเป็นโจรออกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งบางแห่งนายระพีไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ขณะที่มีบางแห่งคนร้ายสวมหมวกกันน็อก แต่ลักษณะรูปร่างเหมือนนายระพี ซึ่งตำรวจต้องสอบปากคำนายระพีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการออกจับของลิขสิทธิ์ปลอม หรือละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ออกตระเวนปฏิบัติการตามร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ และมีนายระพีรวมอยู่ด้วยนั้น ขบวนการดังกล่าวจะมีนายตำรวจระดับพ.ต.ท.คนดังทางภาคเหนือ เป็นหัวหน้าชุดในการออกหาเหยื่อและรีดทรัพย์ข่มขู่ผู้ประกอบการที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รับงานทั่วประเทศ กระทั่งถูกร้องเรียนกลุ่มแก๊งพวกนี้จึงได้หยุดไป นายระพีจึงใช้เวลาว่างตระเวนชิงทรัพย์ตามร้านสะดวกซื้อดังกล่าว