สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกระเป๋ารถโดยสารประจำทาง ถีบหญิง
ชราวัย 72 ปี จนตกลงจากรถโดยสาร เนื่องจากเธอไม่ยอมลุกให้กับคนชราอีกคน
ที่ร่างกายอ่อนแอกว่า
ตามรายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวกลายเป็นคดีฟ้องร้อง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อราวปลายเดือน
กรกฎาคมที่ผ่านมา บนถนนเซิ่งลี่ เมืองตุนฮั่ว มณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน นางเฉิน อายุ 72
ปี ได้โดยสารประจำทางสาย 3 เพื่อนำกับข้าวไปให้ลูกชาย ซึ่งนางเฉินได้นั่งอยู่ตรงข้าม
กับประตูรถโดยสาร ก่อนที่ภายหลังมีคนชราอีกคน ซึ่งสุขภาพร่างกายและขาไม่ดีได้ขึ้น
โดยสารมาด้วย ทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารสั่งให้นางเฉินสละที่นั่งให้กับคนชราผคน
นั้น และให้นางเฉินย้ายไปนั่งอยู่ที่หลังคนขับรถ นางเฉิน เห็นว่ายังมีที่นั่งอยู่ใกล้ประตูว่าง
อยู่อีก 2 ที่ เพียงแต่ที่นั่งของเธออยู่ใกล้ประตูรถที่สุด ประกอบกับขณะนั้นประตูรถโดยสาร
ยังไม่ปิด ทำให้เธอตัดสินใจไม่ลุกเพื่อเปลี่ยนที่นั่งให้ เป็นเหตุทำให้พนักงานเก็บค่า
โดยสารและคนขับรถ ต่อว่าด่าทอนางเฉินอย่างหยาบคาย และเกิดการโต้เถียงกันตลอดทาง
จนกระทั่งรถโดยสารวิ่งมาใกล้ถึงที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งเป็นป้ายรถที่นางเฉินจะต้องลงรถ
ขณะที่เธอกำลังก้าวลงบันไดรถ เธอถูกพนักงานเก็บค่าโดยสารไล่หลังให้เธอลงไปจากรถ
เธอจึงหันกลับไปโต้แย้ง แต่กลับถูกพนักงานเก็บค่าโดยสารถีบร่างเธอตกลงมาสู่พื้นถนน
ทั้งที่รถโดยสารยังจอดไม่สนิท ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ต่างเข้ามาช่วยเธอและนำตัวส่งโรง
พยาบาล นางเฉินได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกตามร่างกาย โดยเฉพาะที่เอวและอาจจะส่ง
ผลกระทบต่อกระดูกสันหลัง
จากการสอบสวน พนักงานเก็บค่าโดยสาร ให้การปฏิเสธ ระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจถีบนางเฉินตก
จากรถโดยสาร อ้างว่าเป็นการป้องกันตัว เพราะนางเฉินทำท่าจะเข้ามาทำร้าย ส่วนอาการ
บาดเจ็บที่เอวของนางเฉิน น่าจะเกิดจากช่วงที่เธอตกลงรถ และมือของเธอยังคงจับราว
บันไดเอาไว้อยู่ นอกจากนี้พนักงานเก็บค่าโดยสารยังบอกว่า เหตุดังกล่าวเพียงแค่
ต้องการหาที่นั่งให้กับคนชราที่พิการเท่านั้น และปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นผู้ถีบนางเฉินตกลงรถโดยสาร
ขณะที่ด้านลูกชายของนางเฉิน กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเรื่องก็ไม่สามารถติดต่อกับคู่กรณีได้เลย ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษจากคู่กรณีอีกต่อไปแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในครอบครัว จึงปล่อยให้คดีดังกล่าวดำเนินไปตามกฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเป็นคดีอาญา ขณะนี้กำลังอยู่ในการรวบรวมพยานและหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรม