ยังคงเป็นเรื่องลึกลับว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดาศาสนาอิสลามที่จุดกระแสประท้วงต่อต้านสหรัฐฯอย่างรุนแรงในอียิปต์และลิเบีย เพราะมีรายงานขัดแย้งกัน บางข่าวอ้างว่าเป็นชาวยิว และบางข่าวอ้างว่าเป็นชาวคริสต์นิกายคอปติก
ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง "Innocence of Muslims" ที่เรียกตนเองว่า "แซม บาซิล" กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขามีเชื้อสายอเมริกัน-อิสราเอล และได้รับเงินสนับสนุนจากชุมชนชาวยิว ได้เก็บตัวเงียบหลังเกิดเหตุประท้วงทั้งที่อียิปต์และลิเบีย
แต่ความแคลงใจเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของชายคนดังกล่าวเริ่มมากขึ้น ท่ามกลางการคาดเดาของสื่อสหรัฐฯ ที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มชาวคริสต์นิกายคอปติก ที่อาศัยนอกนครลอส แองเจลิสและยิ่งซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่ออย่างน้อยหนึ่งในนักแสดงกล่าวว่า ในช่วงที่เป็นประเด็น มีการพากษ์เสียงทับเสียงของพวกเขาในบทสนทนาบางส่วน
นายสตีฟ ไคลน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์เรื่องนี้เผยว่า ทางการอิสราเอลไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และว่านายบาซิล ซึ่งเป็นนามแฝงเสียใจมากที่ทราบข่าวเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำลิเบียถูกสังหาร
นายบาซิล ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาระดมทุนจากชาวผู้บริจาคยิว 100 คนได้ราว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 155 ล้านบาท) และจ้างนักแสดง 60 คน ทีมงาน 45 คน สร้างภาพยนตร์ต่อต้านอิสลามความยาว 2 ชั่วโมง ที่ใช้เวลาถ่ายทำ 3 เดือนที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปีก่อน
หนังออกฉายที่โรงภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ดแห่งหนึ่งเมื่อ 3 เดือนก่อน และลาโรงไปเงียบๆ จนกระทั่งมีการเผยแพร่เป็นภาษาอาหรับเมื่อสัปดาห์ก่อนและสถานีโทรทัศน์ในอียิปต์นำไปออกอากาศ จึงเกิดกระแสประท้วงขึ้น
ด้านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นอ้างประกาศที่นักแสดงและทีมงานที่ร่วมกันแถลงว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากและรู้สึกว่าถูกผู้อำนวยการสร้างฉวยประโยชน์ พร้อมยืนยันไม่ได้สนับสนุนหนังเรื่องนี้ เนื่องจากการหลอกลวงเรื่องเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของภาพยนตร์ พวกเขาตกใจมากที่บทภาพยนตร์ถูกนำไปเขียนใหม่ ไม่ตรงกับเมื่อครั้งถ่ายทำ
ด้านวินดี้ ลี การ์เซีย ซึ่งเล่นเป็นลูกสาวตามท้องเรื่อง กล่าวว่าเธอไม่ทราบมาก่อนว่าหนังมีเนื้อหาชวนเชื่อให้ต่อต้านมุสลิม และเสริมว่าบทสนทนาในเรื่องถูกพากษ์ทับในภายหลัง เธอทราบเพียงว่าหนังเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน และไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับศาสดามูฮัมหมัดหรือศาสนาเลย
ขณะเดียวกันบล็อกของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กได้อ้างรายงานจากอินเทอร์เน็ตว่า นายมอร์ริส ซาเด็ค ชาวคริสต์นิกายคอปติกที่เกิดในอียิปต์ และนายเทอร์รี โจนส์ บาทหลวงรัฐฟลอริดาที่ฉาวโฉ่จากเรื่องเผาคัมภีร์อัลกุรอ่านร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่ต่อมาอ้างรายงานชิ้นหนึ่งว่า นายนากูลา บาสลีย์ นากูลา เผยว่าเป็นเจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ และเขาเป็นชาวคริสต์นิกายคอปติก
นายนากูลา วัย 55 ปี ที่เคยถูกจำคุก 21 เดือนข้อหาฉ้อโกงธนาคารเมื่อปี 2010 ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่นายแซม บาซิล แม้ว่าผลการแกะรอยหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่นายแซม ใช้ให้สัมภาษณ์สื่อจะโยงไปถึงที่อยู่ของนายนากูลา ก็ตาม
ด้านนายไคลน์ กล่าวว่าเขาไม่ทราบว่าผู้กำกับมีสัญชาติใด และปฏิเสธว่า ทางการอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้หรือไม่ และเตือนว่าผู้กำกับรายนี้จะต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับนายเธโอ วาน ก็อค ผู้กำกับชาวดัตช์ ที่ถูกลอบฆ่าเมื่อปี 2004 หลังจากหนังของเขาที่มีเนื่อหาต่อต้านมุสลิม เป็นชนวนก่อให้เกิดการประท้วง