จากข้อมูลของ กรุงเทพมหานคร ที่ได้ทำการรวบรวมเสียงร้องเรียนของชาวบ้านในเขต
ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต เกี่ยวกับการเกิดเหตุอาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยใน
ชีวิตและทรัพย์สิน โดยได้จัดอันดับ 10 ซอยเปลี่ยว ในเมืองกรุง -ซึ่งอันดับแรก คือ
ซอยลาดพร้าว 21 เป็นซอยที่มีความลึกประมาณ 500 เมตร มีบ้านเรือน อยู่ประมาณ 150
หลัง ไม่มีร้านค้า ภายในซอยจึงไม่พลุกพล่าน จากข้อมูลพบว่า มักเกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์
และเหตุทำร้ายร่างกายถึงขั้นเสียชีวิตมาแล้ว -อันดับที่สอง ซอยวิภาวดีรังสิต 64 เขต
หลักสี่ เป็นซอยที่สามารถทะลุออกถนนแจ้งวัฒนะได้ จากข้อมูล ระบุว่า มีเหตุฉกชิงวิ่งราว
ในยามวิกาลบ่อยครั้ง และจากการสำรวจพบว่า ในบางจุดเสาไฟฟ้าไม่มีแสงไฟส่องสว่าง
เพียงพอ-อันดับที่สาม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย จากข้อมูลพบว่า มักเกิด
การโจรกรรมงัดแงะรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ บ่อยครั้ง และเนื่องด้วยกายภาพของ
ภายในซอยเป็นทางแคบ รถใหญ่ไม่สามารถสวนทางได้ อีกทั้งภายในซอยเป็นลักษณะ
เขาวงกต หากคนที่ไม่เคยเข้ามาก็มักจะหลง วนหาทางออกอยู่บ่อยครั้งด้าน นายวัฒนา
ดรกาน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งขี่รับส่งผู้โดยสาร มานานกว่า 10 ปี เล่าว่า ยาม
วิกาลซอยดังกล่าวจะเปลี่ยวมาก มักจะเกิดเหตุรถหายบ่อยและเหตุจี้ชิงทรัพย์ แต่
ปัจจุบัน มีไฟฟ้าส่องสว่างมาติดตั้ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้ามาตรวจตราอยู่
ตลอดเวลา ทำให้เหตุอาชญากรรมลดน้อยลง-ขณะที่ อันดับที่สี่ คือ ซอยจรัญสนิทวงศ์
89 เขตบางพลัด -อันดับที่ห้า ซอยสวนผัก 11 เขตตลิ่งชัน มักมีการจี้ปล้นกันบ่อย ๆ ใน
ช่วงเวลากลางคืน-อันดับที่หก ซอยภิรมย์ เขตสัมพันธวงศ์ มักเกิดเหตุปล้นจี้ ลักขโมย
งัดแงะรถยนต์ เป็นประจำ -อันดับที่เจ็ด ซอยเจริญนคร 23 หรือ ซอยอู่ใหม่ เขตคลองสาน
เกิด การปล้นจี้ขึ้น รวมถึงรถจักรยานยนต์หายเป็นประจำ -อันดับที่แปด ซอยวิมุตยาราม
เขตบางพลัด มักจะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทอยู่เป็นประจำ-อันดับที่เก้า ซอยร่วมรักษา เขต
ห้วยขวาง -และอันดับที่สิบ ซอยวัดมะกอก ถนนราชวิถี ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งจะเกิด
เหตุคนร้ายปล้นจี้บ่อยครั้งอย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า อีกหลายจุดของพื้นที่
กรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ถูกจัดอันดับนั้น ก็ยังมีความเสี่ยง เนื่องจากไม่มีแสงสว่างเพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการก่ออาชญากรรมได้