ศาลตัดสินนักร้องสาว คุก1เดือน-รอลงอาญา ทำประโยชน์ 12ชั่วโมง เจ้าตัวร่ำไห้-สำนึกผิด!
เผย "กิ๊ฟท์ซ่า" และ 3 สาวเกิร์ลลี่ เบอร์รี่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์งดเหล้าเข้าพรรษา-เมาไม่ขับให้กรมคุมประพฤติส่วนคดีเมาขับศาลตัดสินจำคุก "กิ๊ฟท์ซ่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" เป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 6 พันบาท ส่วนคดีไม่มีใบขับขี่ปรับ 1 พันบาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยทำผิดมาก่อนลดโทษให้กึ่งหนึ่ง รวมปรับ 3,500 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 12 ชั่วโมง เจ้าตัวสำนึกผิดถือเป็นบทเรียนที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
จากกรณีน.ส.ปิยา พงศ์กุลภา หรือ กิ๊ฟท์ซ่า นักร้องสาววงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน จับกุมข้อหาเมาแล้วขับ ระหว่างขับรถเก๋งมากับนายณัฐพลหรือนัท สารสาส เพื่อนชายไฮโซชื่อดัง โดยกิ๊ฟท์ซ่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดถึง 82 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เหตุเกิดบริเวณด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปากซอยพัฒนาการ 37 แขวงสวนหลวง เขตสวน หลวง กทม.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 12 ก.ย. น.ส.ปิยา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ตามที่ได้นัดหมายไว้ เพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาเมาแล้วขับรถ และขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ซึ่งมีสื่อมวลชนมารอทำข่าวอยู่ก่อนแล้ว โดย น.ส.ปิยา มีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อมาถึงก็ได้เดินเข้าไปพบในห้องพนักงานสอบสวนทันที จากนั้น ร.ต.ต.จักราวุธ ดอนประดับ พงส.(สบ 1) สน.คลองตัน ก็ได้พา น.ส.ปิยา พร้อมสำนวนการสอบสวน เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ แล้วนำตัวส่งฟ้องทันที
ที่ห้องพิจารณา 301 พนักงานอัยการศาลจังหวัดพระโขนง เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ปิยา เป็นจำเลยในความผิดฐาน ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต
อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.55 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยขับรถยนต์ ฮอนด้า ฟรีด สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆก 2733 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าไปแยกคลองตันบริเวณปากซอยพัฒนาการ 37 แขวงและเขตสวนหลวง โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายวัดได้ 82 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย นอกจากนี้ จำเลยยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ฐานขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตด้วย
จากนั้นศาลได้อธิบายและคำฟ้องโจทก์ให้จำเลยฟังจนเข้าใจ พร้อมสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า น.ส.ปิยา แถลงต่อศาลขอให้การรับสารภาพ และไม่ต้องการทนายความ ศาลจึงมีคำพิพากษาทันที ว่า จำเลยมีกระทำผิดตามฟ้อง ฐานขับรถในขณะเมาสุรา ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ปรับ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานขับรถในขณะเมาสุรา ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,500 บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี แต่เพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยกลับไปกระทำความผิดอีก จึงให้คุมประพฤติ และให้ไปรายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี ทำกิจกรรมบริการสังคมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง โดยศาลกำชับให้จำเลยเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน และเคร่งครัดในการรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประ พฤติอีกด้วย
หลังจากนักร้องสาวฟังคำพิพากษาเรียบร้อยแล้วได้ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนอื่นตนต้องกราบขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจมากและมีภาพที่ไม่เหมาะสมหลายภาพออกมา ขอโทษและรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"สิ่งที่เกิดขึ้นกิ๊ฟท์ยอมรับผิดและยอมรับสารภาพทุกอย่าง บทลงโทษตามกฎหมายก็ดำเนินการไป วันนี้มาที่ศาล กิ๊ฟท์โดนบทลงโทษสองทางคือตามกฎหมายเพราะเราทำผิดกฎหมายเป็นการลงโทษดำเนินการคดีตามที่ศาลและกฎหมายกำหนด ส่วนบทลงโทษอีกอย่างคือ บทลงโทษทางสังคมซึ่งทางสังคมก็มีทั้งการตำหนิและให้กำลังใจ ซึ่งกิ๊ฟท์น้อมรับทุกอย่างไว้และถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ค่ะ" นักร้องสาวกล่าวและว่าสำหรับการบำเพ็ญประ โยชน์ จะต้องคุยกับพนักงานคุมประพฤติ และตกลงกันในโอกาสต่อไป
"เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราเป็นผู้หญิงและไม่เคยขึ้นศาลและเจอคดีอาญาแบบนี้ทำให้เราคิดว่าในการดำรงชีวิตอยู่ของเราแต่ละวัน บางครั้งเราอาจจะละเลยสิ่งที่เป็นหน้าที่ หรือว่าสิ่งที่เป็นสิทธิ หรือว่าสิ่งที่เรามองข้ามมากเกินไป ทำให้เราต้องย้อนกลับมาดูว่าในแต่ละก้าวเดินที่เราจะก้าวเดินไปข้างหน้า ต่อไปต้องเป็นก้าวที่มีสติ และมีความรอบคอบมากกว่าเดิม ไม่ประ มาท เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยกฎหมายกิ๊ฟท์มองว่าเป็นเรื่องที่ถูก เพราะว่าการที่คนเมาแล้วขับรถก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง นอกจากจะทำความเดือดร้อนให้ตัวเราและทรัพย์สินของเราแล้ว ก็อาจจะทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้ด้วย เพราะฉะนั้นเราคิดว่าอย่างน้อยที่สุดเราได้รับบทลงโทษนี้และทำให้เราคิดได้ดีกว่าที่เราจะไปเจออะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทางบ้านก็ให้กำลังใจค่ะ" นักร้องสาวกล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าเหตุการณ์ครั้งนี้กระแสสังคมที่ออกมาต่อว่าทำตัวกร่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงณัฐพล สารสาส เพื่อนชายคนสนิทด้วย นักร้องสาวกล่าวว่า ถ้าตามภาพที่ออกมาตนไม่ได้มีเจตนาที่จะแสดงความไม่เคารพต่อใครทั้งสิ้น ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นเลย ส่วนกรณีของพี่ณัฐตนขอไม่ออกความคิดเห็น ต้องถามเจ้าตัวเองจะดีกว่า
"เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อตัวเราเยอะค่ะ กระทบต่อผลงานด้วยค่ะ หลังจากนี้ต้องไปคุยรายละเอียดที่บริษัท แต่ในเบื้องต้นเฮียฮ้อ(นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) สั่งพักงานกิ๊ฟท์เป็นเวลา 3-6 เดือน แต่หลังจากนี้ต้องคุยรายละเอียดอีกทีค่ะ ส่วนทางครอบครัวมองว่าการดื่มเป็นการสังสรรค์ของคนรุ่นเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่เหมาะสมก็คือไม่ควรที่จะขับรถหรือไม่ควรที่จะเมาแล้วขับหรือไม่ควรแม้กระทั่งดื่มแล้วขับด้วยซ้ำ เหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อนในวงก็ให้กำลังใจนะคะ กำลังใจเหมือนการรดน้ำให้เราฟื้นขึ้นมา แต่ความผิดในใจเราก็ยังรู้สึกอยู่ค่ะ" กิ๊ฟท์ซ่ากล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าหลังเกิดเหตุการณ์นี้ต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้นหรือเปล่า นักร้องสาวเผยว่า อีกไม่กี่วันใกล้จะถึงวันคล้ายวันเกิดตนแล้ววันที่ 3 ต.ค. ตนตั้งใจว่าจะถือศีลห้าจนกว่าจะเลยวันเกิด และถ้าเรื่องดื่มแล้วขับคงไม่แล้ว เพราะปกติตนก็ไม่ได้ขับรถอยู่แล้ว ตนคงระวังมากขึ้นและไม่ประมาทเหมือนเดิมแล้ว
"อยากบอกทุกคนว่าจริงๆ กฎหมายและหน้าที่ของประชาชนทุกคนมีหน้าที่ต้องทำตามกฎหมายไม่ละเมิดกฎหมาย การละเมิดกฎหมายย่อมได้รับบทลงโทษ และการได้รับบทลงโทษจะทำให้คุณปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตให้ไปในทางที่ดีขึ้น อยากให้ทุกคนไม่ประมาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกิ๊ฟท์ก็อย่าทำตามเลย กิ๊ฟท์ได้บทเรียนขนาดใหญ่แล้วค่ะ" พูดจบนักร้องสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ต้องหยิบทิชชูขึ้นซับน้ำตาแล้วขึ้นรถตู้ออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงก่อนวันเข้าพรรษา ปี พ.ศ.2549 "4 สาวเกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ทั้ง "กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์" "กิ๊ฟท์ซ่า ปิยา พงศ์กุลภา" "แนนนี่ ภัทรนันท์ ดีรัศมี" และ "เบลล์ มนัญญา ลิ่มเสถียร" ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมรณรงค์ให้วัยรุ่นไทย "งดเหล้า เข้าพรรษา" และโครงการ "เมาไม่ขับ" เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ ของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยทั้ง 4 สาว ได้เดินทางไปรณรงค์แจกโบรชัวร์โครงการ ให้แก่วัยรุ่นชายหญิง ที่เดินทางมาเที่ยวในสถานบันเทิงย่านรัชดา ซอย 4 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก
ในการรณรงค์ครั้งนั้น "กิ๊ฟท์ซ่า" ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเตือนสติวัยรุ่นไทย ในโครงการ "งดเหล้า เข้าพรรษา" และโครงการ "เมาไม่ขับ" ของกรมคุมประพฤติ เพราะการดื่มสุราและของมึนเมาทุกชนิด จะทำให้ขาดสติ และถ้าไปขับขี่รถยนต์ก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา บางรายถึงขั้นพิการและเสียชีวิต เพราะฉะนั้นในวันเข้าพรรษาปีนี้ ก็อยากให้วัยรุ่นนักดื่มทุกคน "งดเหล้า เข้าพรรษา" และที่สำคัญ "เมาไม่ขับ" เพื่อลดอุบัติเหตุ