เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษ เปิดเผยคลิปวิดีโอกิจกรรมเล่นกับเสือ ที่วัดเสือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยระบุเป็นภาพเหตุการณ์สุดช็อก ขณะที่นักพิทักษ์สิทธิสัตว์เผย เป็นการกระทำที่งี่เง่า และเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์
รายงานระบุว่า การเข้าชมเสือที่วัดเสือ หรือวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จังหวัดกาญจนบุรีนี้ นักท่องเที่ยวจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 600 บาท ซึ่งทางวัดอ้างว่าจะนำไปเป็นค่าอาหารสำหรับเสือ และนำไปสร้างสถานที่ฝึกลูกเสือ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในป่าใหญ่ได้
ระหว่างการเข้าชม นักท่องเที่ยวที่อยากจะใกล้ชิดเสือ ก็จะสามารถลงไปหยอกล้อเล่นกับเสือได้ โดยถือไม้ที่ผูกถุงอาหารไว้ที่ปลายดังภาพที่เห็น จากนั้นยื่นปลายไม้ไปยังเสือโคร่งแต่ละตัวเพื่อล่อให้พวกมันมากระโดดไล่จับ อาหารในถุง โดยมีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งคอยดูแลอยู่ ไม่ให้เสือโคร่งเข้ามาใกล้นักท่องเที่ยวมากไป
ทางด้าน ซิเบล ฟ็อกซ์ครอฟต์ นักอนุรักษ์ที่เข้าไปศึกษาและเฝ้าดูความเป็นไปของบรรดาเสือโคร่งในวัดนี้มา นานหลายปี ได้เปิดเผยว่า "นี่เป็นกิจกรรมที่ไร้สาระมาก ๆ ทุกคนที่ลงไปเล่นกับเสือควรจะคิดนะว่า พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ดุร้ายน้ำหนัก 150-280 กิโลกรัมที่ยากจะสู้กับมันได้ ขณะที่เจ้าเสือพวกนั้น ดูเหมือนมันจะถูกวางยา สังเกตได้จากอาการหลาย ๆ อย่าง เช่น ดวงตาของมันขยายใหญ่ขึ้นกลางแสงอาทิตย์ ไม่มีชีวิตชีวา ลิ้นห้อยเหมือนเหนื่อยอ่อน และไม่สามารถทำอะไรดุร้ายตามสัญชาตญาณได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง"
นอกจากนี้ ซิเบล ฟ็อกซ์ครอฟต์ ยังได้เขียนลงในหนังสือ "เบื้องหลังวัดเมืองพุทธ" ว่า วัดเสือแห่งนี้มีเสือโคร่ง 115 ตัว พวกมันใช้เวลาชีวิตส่วนใหญ่ในห้องขังคอนกรีต และไม่ได้กินเนื้อแดงเลย แต่กินอาหารที่ออกไปทางมังสวิรัติแทน ซึ่งทำให้กระดูกของพวกมันโค้งงอ มีร่างกายที่ผิดปกติ และยังเป็นโรคต่าง ๆ ด้วย
ขณะ ที่ทางด้าน ฟิล เดวีส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับเสือ ได้ออกมายืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า เสือโคร่งเหล่านี้ถูกวางยาอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากมันไม่ถูกวางยา แล้วมีคนไปแหย่มัน โดยเอาอาหารไปล่อ ก่อนจะดึงออกไม่ให้มันได้กินอย่างนั้น ถือว่าเป็นการกระตุ้นมันและคนที่อยู่ใกล้มันก็คงกลายเป็นอาหารของมันไปแล้ว
ทั้งนี้ รายงานยังระบุอีกว่า วัดเสือได้ตกเป็นประเด็นเรื่องการทารุณกรรมสัตว์มาหลายปีแล้ว และมีหน่วยงานพิทักษ์สัตว์หลายหน่วยงานออกมาต่อต้าน แต่ก็ยังคงมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อหารายได้ภายในวัดอยู่ พร้อมกันนี้ ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือพีต้า ยังได้มีการเตือนด้วยว่า ถ้าหากชาวต่างชาติคนใดอยากจะช่วยเหลือเสือจริง ๆ ก็อย่าสนับสนุนวัดแห่งนี้ แต่ขอให้บริจาคกับหน่วยงานที่ทำงานที่ช่วยเหลือเสือจริง ๆ ดีกว่า