เรื่อง ราวของเรื่อง 25 เบญจเพศ ระวังไว้ ก็ดีนะครับ
การขับรถไปเยาวราชนั้นไม่ใช่เรื่องยาก การหาที่จอดยิ่งง่ายกว่า หรือแม้แต่การเดินหาบะหมี่จับกังเยาวราช (ที่ปรากฏว่าร้านปิดวันนี้ เดินวนไปมาตั้งหลายรอบทำไมก็ไม่รู้ -_-") ยังไม่ยากเท่าการไปไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกัมลาวาส)
อาแปะร้านขายส้มหน้าวัดบอกว่าให้เราซื้อส้มคนละสองชุด ชุดละเท่าไรจำไม่ได้แล้ว (เดี๋ยวแนนคงมาบอก) บวกกับลูกท้ออีกโลละสามร้อย ทำให้เรียนรู้ว่าบางครั้งการเชื่อผู้ใหญ่ (ซึ่งคืออาแปะกับอาม่าคนนั้น) ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น อย่างน้อยก็รู้สึกตะหงิดใจเล็กๆ ทั้งที่ควรจะสบายใจเพราะได้ไหว้พระนะนั่น --"
หลังจากออกมาจากวัด กลิ่นควันธูปก็สนิทแนบแน่นไปทั้งหัวหูและเสื้อผ้า ยังไม่รวมกับที่อยู่ในลูกกะตาอีกหลายมิลลิลิตร ทำเอาซาบซึ้งในพระธรรมน้ำตาไหล ความจริงหงีไม่ใช่คนชอบไหว้พระทำบุญสักเท่าไร แต่ก็เข้าใจในความรู้สึกของคนที่เชื่อและศรัทธา บางครั้งความสบายใจ ไม่ว่าจะของตัวเราเอง หรือคนที่เรารัก ก็มีค่ามากกว่าอะไรทั้งนั้น
ใกล้จะ 25 แล้วในปีนี้ ถ้าไม่พูดถึงเรื่องอาถรรพ์เบญจเพสคงไม่ได้...
"เมื่อข้าพเจ้ายังเล็กๆ อยู่เคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวว่า ถ้าผู้ใดเกิดมาเป็นเพศชายอันมีรูปสมบัติตกแต่งมาสู่มนุษยโลกแล้ว
ย่อมจะต้องผ่านโชคและเคราะห์ซึ่งเป็นส่วนดีกับส่วนร้ายอย่างแรงกล้า ในเมื่ออายุครบ ๒๕ ปีบริบูรณ์นั้นครั้งหนึ่ง
ซึ่งเป็นภาษาของคัมภีร์พฤฒิศาสตร์เรียกว่า "ต้องเบญจเพส" ดังได้ชี้แจงของเพส ๕ ไว้ดังนี้คือ
๑ เทวะ ๒ มนุษย์ ๓ เดรัจฉาน ๔ เปรต ๕ อสุรกาย ผี
ใครชะตาตกโชคเทวะ ท่านว่าผู้นั้นจักได้อิตถมนูญผลมีลาภและยศเป็นอำนาจวาสนา มีโชคมนุษย์ ท่านว่าดีชั่วปานกลางแล
ถ้าเคราะห์ตกเดียระฉานทำนายว่า ผู้นั้นจะเสื่อมศรีอัปภาคย์ ต้องราชภัยไข้ป่วยถึงจองจำลำบาก
หากว่าตกเคราะห์เปรต อายุจักถึงฆาตชะตาสูญ มีกายอันวิกลวิการแตกดับด้วยคมอาวุธมีหอก ดาบ เป็นต้น
มาตร ว่าตกเคราะห์อสุรกาย มีกายอันแกล้วกล้าปราศจากทวารทั้งหกกายสำแดงได้ด้วยอำนาจกรรมเลี้ยง มีความอดอยากทุพพลภาพ ต้องเข็ญใจเป็นไพร่กระฎุมพีให้เขาช่วงใช้ อนึ่ง อันว่าโชค ๒ และเคราห์ ๓ นี่ บุรษผู้ต้องเบญจเพสจะเป็นไปในทางที่ดีและชั่วอย่างใด
ท่านให้ทายลักษณะที่เป็นผลพิบัติ และภัยพิการแก่เขาผู้นั้นเทอญดังนี้ จะเท็จจริงฉันใดก็ตามแต่ ผู้กล่าวจะนิทัศน์อุทาหรณ์ไว้เถิด"
อายันโฆษะ เขียนเรื่องเบญจเพสไว้ในหนังสือ ดาบเหล็กน้ำพี้
ช่วงอายุ 25 เป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตจริงหรือไม่ และอาถรรพ์เบญจเพสคือเรื่องจริง หรือแค่ความบังเอิญกันแน่ แท้จริงแล้วคำว่าเบญจเพสนั้นสะกดให้ถูกต้องด้วย "ส" ในคำว่า "เพส" แผลงมาจากคำในภาษาบาลีสองคำคือ ปัญจะ คือ ห้า และ วีส คือ ยี่สิบ
ตามคติของพราหณม์นั้นจะแบ่งช่วงวัยของมนุษย์ออกเป็นส่วนๆ คือ ๑-๘ นับ เป็นกุมาร ๙ – ๑๖ นับเป็นทารกวัย (วัยรุ่น) ๑๗ – ๒๕ นับ เป็นมาณพ(วัยหนุ่ม) ชายใดใช้ชีวิตมาถึงปีที่ ๒๕ ตามภาษาของคัมภีร์พฤติศาสตร์เรียก ‘ต้องเบญจเพส’ หมายถึงการเข้าถึงฝ่ายโชคและเคราะห์อันแรงกล้า ส่วนจะเป็น โชคหรือเคราะห์ ก็ต้องดูว่าลงล็อกใดใน ‘เพส ๕’ อันได้แก่ เทวะ มนุษย์ เดรัจฉาน เปรต หรือ อสุรกาย หากดวงตกเทวะ ก็จะได้ลาภยศ หากตกมนุษย์ ก็ปานกลาง หากตกเดรัจฉาน คือป่วย หนัก หากตกเปรตก็ถึงตาย หากตกอสุรกายก็อาจพิกลพิการเป็นต้น ซึ่งในตำราหนึ่งได้กล่าวแยกภัยพิบัติอันเกี่ยวกับเบญจเพสนี้ไว้ว่า
คนเกิดวันอาทิตย์ :
ช่วงหกเดือนแรกต้องระวังปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทางสายตา โรคหัวใจ รวมถึงจะมีผู้ใส่ร้ายป้ายสีให้เกิดคดีความสายตามีปัญหา จะเป็นโรคลมโรคหัวใจ พอถึงหกเดือนหลังปัญหาจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
คนเกิดวันจันทร์ :
ช่วงหกเดือนแรกจะเป็นที่ถูกตาต้องใจของเพศตรงข้าม มีเกณฑ์ได้พบเนื้อคู่ จะทำสิ่งใดจะได้รับการอุปถัมป์อุ้มชูจากผู้ใหญ่ มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมีเกณฑ์ได้รับเงินก้อนโต ช่วงหกเดือนหลังจะมีเรื่องวุ่นวายจากเพศตรงข้าม อาจเกิดรักซ้อนขึ้นมาได้
คนเกิดวันอังคาร :
เกิดการทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาล
คนเกิดวันพุธ(ทั้งกลางวันและกลางคืน) :
หกเดือนแรกต้องตกระกำลำบากเหน็ดเหนื่อย มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายถิ่นที่อยู่ ผิดพลาดด้านงานเอกสาร มีการสูญหายหรือเสียหาย หกเดือนสุดท้ายปัญหาจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
คนเกิดวันพฤหัสบดี :
หกเดือนแรกจะมีผู้ให้การช่วยเหลืออุปถัมป์ ถ้ามีการเจ็บป่วยอยู่ก็จะหายดี อาจจะมีการโยกย้ายไปอยู่แดนไกล หกเดือนสุดท้ายต้องระวังจะมีเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ ในช่วงนี้ต้องจึงต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดี
คนเกิดวันศุกร์ :
ระวังมีคดีความ จะมีเรื่องวุ่นวายในชีวิต เกิดภาระหนี้สิน เป็นหม้าย ครอบครัวไม่มีความสุข (ต้องหมั่นฝึกทำสมาธิให้มากจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้)
คนเกิดวันเสาร์ :
ต้องพลัดพรากไปใช้ชีวิตในแดนไกล ระวังจะเรื่องทำผิดศีลธรรม
ถ้าเป็นหญิงมักจะเสียสาวหรือตกเป็นมือที่สาม ถ้าเป็นชายระวังจะเป็นชู้กับผู้อื่น
เมื่อคิดตามข้างค้นแล้ว ภัยพิบัติหรือความโชคร้ายเหล่านี้ ถึงจะน่ากลัว แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดกับทุกคน หากแต่จะเกิดกับคนที่ดวงไปตกกับเพสร้ายๆเท่านั้น คนที่เชื่อในอาถรรพ์จึ้งมักไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ขอพรตามวัดวาอารามหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิต่างๆ ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็บอกว่าเป็นแค่ช่วงอายุที่มีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากกว่าช่วงอื่น เช่นการเข้าสู่ช่วงเริ่มทำงานปีแรกๆ การพบเจอผู้คนในสังคมใหม่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะปรับตัวไม่ทัน บ้างก็เชื่อว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่อยากให้ผู้ชายในวัย 25 บวชเป็นพระเพื่อศึกษาพระธรรมและเป็นบุญกุศลแก่พ่อแม่ หรือในปัจจุบันนี้ก็เพื่อห้ามปรามชายหญิงที่กำลังอยู่ในวัยคึกคะนองให้ระมัดระวังตัวเอง
ส่วนในแง่ของสถิตินั้น คนในวัย 25 มีความเสี่ยงกับโรคภัยมากกว่าวัยอื่นๆดังนี้ครับ
ปัจจุบันความเชื่อในอาถรรพ์เบญจเพสไม่ไช่กับเฉพาะผู้ชายอย่างเช่นในสมัยโบราณแล้ว แต่รวมไปถึงผู้หญิง และยังหมายรวมไปถึงช่วงอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 5 เช่น 25 35 45 อีกด้วย บางคนถึงกับเตรียมทำบุญกันตั้งแต่อายุได้ 24 ย่างเข้า 25 เสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าอาถรรพ์เบญจเพสจะเป็นความเชื่อที่จริงหรือไม่ พิสูจน์ได้หรือไม่ได้ เราทุกคนก็ควรมีสติตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพราะความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนั้น เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และอย่าวิตกกังวลจนเกินไป เท่านี้เราก็คงใช้ชีวิตได้อย่างมีีความสุขกับทุกช่วงชีวิตแล้วครับ