วงจรปิดแฉ ดีแมคซ์ขยี้รตต.

แฉวงจรปิดมัดปิกอัพต้องสงสัย ขยี้ร่าง"ร.ต.ต." สังกัดจราจรโครงการฯ ดับสยองกลาง ถนนบางนา-ตราด แฉเป็นอีซูซุ 4 ประตู จับภาพขับผ่าน พร้อมร.ต.ต. ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ แล้วซิ่งหลบหนีไปสี่แยกประเวศ ตร.กล่อมเข้ามอบ ตัว เร่งเช็กวงจรปิดหาเส้นทางหนี-ทะเบียนรถ เผยสอบปากคำพยานแล้ว 3 ปาก ให้การตรงกันได้ยินเสียงรถชน 2 ครั้ง ส่วนเหตุซิ่งเฟอร์รารี่ชนด.ต.ทองหล่อ รองผบช.น .เตรียมเรียกทายาทกระทิงแดง แจ้งข้อหาเมา-ขับเพิ่ม 12 ก.ย.



จากกรณี ร.ต.ต.บรรณการ กระจงกลาง อายุ 53 ปี รอง สว.ปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. ประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักย่านอุดมสุข บริเวณถนนเลี่ยงเมืองวงแหวนตะวันออก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. จนเสียชีวิตคาที่ในชุดเครื่องแบบ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานรถอาจไปเกี่ยวหรือชนกับแท่งปูนแบร์ริเออร์ที่จุดเกิดเหตุจนรถล้ม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมืดแล้วไม่มีไฟส่องสว่าง ก่อนมีรถกระบะที่ขับตามมาเหยียบทับร่าง ร.ต.ต.บรรณการกระเด็นไป 3-4 เมตร แล้วหลบหนีไป ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น



ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.สส.บก.น.4 เปิดเผยว่า เบื้องต้น พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 ให้แบ่งชุดคลี่คลายคดีเป็น 2 ส่วนคือเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 จะดูแลในส่วนเทคนิค เรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข ดูในส่วนของการสอบพยานที่เกิดเหตุและหาข่าวในพื้นที่ ล่าสุดจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกตลอดทั้งเส้น แต่ยังไม่พบกระบะต้องสงสัยดังกล่าว



พ.ต.อ.อุทัยกล่าวต่อว่า ส่วนการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้สอบพยานแวดล้อมไปแล้ว 2-3 ปาก โดยทุกคนกล่าวเป็นไปแนวทางเดียวกันว่าได้ยินเพียงเสียงดังคล้ายมีเหตุรถชนกัน 2 ครั้ง ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้นทราบว่า ร.ต.ต.บรรณการได้ประสบอุบัติเหตุรถไปชนกับแท่งปูนแบร์ริเออร์ก่อน ทำให้รถเสียหลักล้มแล้วกระเด็นไปอีกเลน ส่วนรถที่วิ่งสวนมาคือรถกระบะเหยียบเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต 



รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เริ่มตั้งแต่บริเวณถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด และซอยตามละแวกหมู่บ้านที่สามารถทะลุเข้าถนนสวนหลวง ร.9 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่ารถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก แต่น่าจะหลบหนีไปตามตรอกซอกซอยที่ไปถนนสวนหลวง ร.9 ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งติดตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป



ที่สน.อุดมสุข พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ สารวัตรเวร สน.อุดมสุข เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว 2 ส่วน คือ บริเวณหน้าบริษัท ที ที เอส เอนจิเนียร์ริ่ง จำกัด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ก.ม. โดยได้ภาพรถ ผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจนแล้ว คือรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงินหรือสีขาว สี่ประตู ขณะขับจากถนนบางนา-ตราด ผ่านบริษัทดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ และบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านลลิล กรีนวิลล์ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร โดยเห็นไฟจากรถจักรยานยนต์ของร.ต.ต.บรรณการ ขณะขับผ่านหมู่บ้านดังกล่าวมุ่งหน้าจุดเกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรถกระบะคันดังกล่าววิ่งผ่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าได้ชนผู้ตายแล้วกำลังขับรถหลบหนี มุ่งหน้าสี่แยกประเวศ ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม และติด ตามทะเบียนรถต้องสงสัยให้ได้



พ.ต.ท.นพพรกล่าวอีกว่า ส่วนข้อหาที่ผู้ต้องสงสัยจะถูกดำเนินคดีคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหากผู้ที่ขับรถกระบะคันดังกล่าวรู้ตัวว่าเป็นผู้ขับชนร.ต.ต. บรรณการ ก็ขอให้รีบมาพบพนักงานสอบ สวนจะเป็นผลดีกว่า หากมาพบก่อนแล้วจะได้สอบสวนก่อนปล่อยตัวชั่วคราว แต่หากเจ้าหน้าที่สืบสวนจนรู้ตัวคนก่อเหตุแล้วจะออกหมายจับ ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความยุติ ธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ต้องกลัวว่าผู้ตายเป็นตำรวจแล้วจะช่วยเหลือกัน จนไม่ได้รับความยุติธรรม



ส่วนความคืบหน้าการเสียชีวิตของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ป.สน.ทองหล่อ ซึ่งถูกนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส" บุตรชายนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่ม "กระทิงแดง" ซิ่งรถเก๋งเฟอร์รารี่พุ่งชนเสียชีวิต ขณะออกปฏิบัติหน้าที่เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น 



วันเดียวกัน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและสอบสวน เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ย. นายสุเวศ หอมอุบล พ่อบ้านครอบครัวอยู่วิทยา ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ จะเดินทางไปรับฟังคำสั่งที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนนายวรยุทธจะเรียกตัวมารับทราบข้อหาเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 12 ก.ย. เวลา 14.00 น. ที่สน.ทองหล่อ ในข้อหาเมาแล้วขับ เพิ่มเติมจาก 2 ข้อหาที่แจ้งไปแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับหลักฐานต่างๆ ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานเร่งตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จดี โดยหากได้ครบเสร็จสิ้นก็จะนำมาประกอบสำนวน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.ย.แน่นอน

10 ก.ย. 55 เวลา 10:55 1,045 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...