นายฝั่มวันเหียบ (Phạm Văn Hiệp) ได้ชื่อใหม่เป็น น.ส.ฝั่มเลกวี่งเจิม (Phạm Lê Quỳnh Trâm) ที่ทางการออกให้หลังผ่านการตรวจและการพิสูจน์ทางการแพทย์มาหลายครั้ง จนเป็นที่แน่ใจว่า เธอเป็น "หญิงในร่างชาย" ตามธรรมชาติ
เวียดนามเอ็กซ์เพรส รายงานว่าการผ่าตัดแปลงเพศในกรุงเทพฯ "มันเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของหนูตลอดมา หนูยังไม่เชื่อว่ามันเป็นความจริงได้ในที่สุด หนูไม่สามารถจะบรรยายได้ว่ามีความสุขเพียงไรในวันนี้"
กวึ่งเจิม เกิดในนครโฮจิมินห์ ครอบครัวยากจน ต่อมาได้โยกย้ายไปตั้งหลักแหล่งยังเขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ มารดาของเธอ เล่าว่า ลูกชายคนนี้มีลักษณะผู้หญิงมาตั้งแต่เกิด พอโตขึ้นมาก็ชอบร้องเพลงผู้หญิง
ตอนเรียนชั้นประถมเริ่มมีหน้าอก และยิ่งชัดเจนเมื่อเรียนชั้นมัธยมซึ่งเสียงพูดของเธอก็เปลี่ยนเป็นเสียงของหญิงสาวอย่างไม่ผิดเพี้ยน อีกทั้งเริ่มหลงรักเพื่อนชายตามประสาวัยรุ่น
เธอตัดสินใจแล้วว่าทางออกของชีวิตคือการผ่าตัดแปลงเพศให้เป็นหญิง เธอไปพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโฮจิมินห์ และตรวจพบว่าเธอมีของเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอเป็นหญิงหมดยกเว้น "สิ่งนั้น" ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้ไปทำสิ่งที่ต้องการในประเทศไทย
"หนูเกิดมาเป็นหญิงแต่มีร่างกายเป็นชาย มันทำให้หนูมีกำลังใจ ต้องทำงานหนักกว่าลูกสาวทั่วๆ ไปถึง 4 เท่า และหนูทำได้ มีเงินมากพอที่จะไปประเทศไทย แต่หนูจะต้องมีเงินอีก 25,000 ดอลลาร์ สำหรับการเปลี่ยนตัวเองเป็นให้เป็นหญิงสาว"
บนโต๊ะผ่าตัดในวันนั้น แม้หมอจะให้ยาชาอย่างดีก็ตาม แต่เธอก็รับรู้ความเจ็บปวดจากคมมีด ทุกครั้งที่หมอเฉือนเข้าไปตรงอวัยวะอันอ่อนไหวที่สุดของร่างกาย
กลางปี 2551 หลังผ่าตัด "ช่วงล่าง" แล้วเสร็จ กวี่งเจิมกลายเป็นหญิงเต็มตัว คุณหมอบอกว่าเธอเป็นคนสวย ผิวขาวนวลเนียน และแนะนำให้ส่งภาพถ่ายไปสมัครทิฟฟานีโชว์ แหล่งรวมสาวประเภท 2 และ 3 หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ้งจากการทำงานที่นั่นทำให้กวี่งเจิมได้เข้าประกวดมิสทิฟฟานี และประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลขวัญใจช่างภาพ
กวี่งเจิมกลับเวียดนามในปี 2552 ตัดสินใจไปยื่นต่อทางการขอเปลี่ยนชื่อใหม่จาก "นาย" เป็น "นางสาว" ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับกฎหมายเวียดนาม แต่แล้วผลการตรวจ และทดสอบทางการแพทย์ที่ออกมาในปลายปีก็เป็นที่น่าพอใจ
หน่วยงานที่รับผิดชอบตกลงดำเนินการให้เธอตามคำขอ และเธอก็รอจนกระทั่งถึงวันอังคารของสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการรอคอยที่ยาวนาน และสุดแสนทรมาน แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กวี่งเจิมยืนร้องไห้อยู่หน้าศาลากลางจังหวัด มือกำใบจดทะเบียนแน่น ชีวิตใหม่ของเธอเริ่มขึ้นแล้ว.