ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 กันยายน ว่า แปลงนาข้าวปรังของชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม
ของตำบลบ้านสร้าง และตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากน้ำในคลองชลประทานระพีพัฒน์ ที่รับน้ำมาจาก
เขื่อนพระราม 6 และเป็นคลองชลประทานฝั่งตะวันออกที่ใช้เป็นเส้นทางปล่อยน้ำเข้าไป
ทดลองระบบป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้มีการเพิ่มระดับการปล่อยน้ำ
ผ่านคลองระพีพัฒน์
ล่าสุด พบว่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาทั้ง 2 ตำบลเป็นอย่างมากในขณะนี้ น้ำ
ประมาณมากจากคลองระพีพัฒน์ไหลเข้าคลองโพธิ์และไหลต่อมายังทุ่งในในสองตำบล
บวกกับช่วงนี้มีฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งมีการปิดประตูน้ำปากคลองโพธิ์ที่
ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงเช่นกัน ทำให้
น้ำในทุ่งบางปะอินไม่มีทางไหลออก ส่งผลให้ระดับน้ำในทุ่งบางปะอิน มีระดับสูงขึ้นอย่าง
รวดเร็ว ข้าวนาปรังที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ลุ่มในเบื้องต้นกว่า 1,000 ไร่ ที่กำลังออกรวงแก่ใกล้
จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ต้องมาถูกน้ำท่วมรวงจมน้ำ ชาวนาต้องช่วยกันใช้เคียวมาเก็บ
เกี่ยวรวงข้าวที่จมน้ำ ใส่เรือบรรทุกขึ้นฝั่งก่อนลำเรียงขึ้นรถนำไปตากให้แห้งด้วยความ
เสียดาย
นางมณี รื่นบุตร อายุ 60 ปี ทำนาปรังกว่า 30 ไร่ กล่าวว่าน้ำทุ่งขึ้นเร็วมาก และท่วมข้า
นาปรังเสียหายโดยแปลงนาข้าวของเพื่อนบ้านอีกหลายรายก็มีสภาพไม่ต่างไปจากของ
ตน ต้องช่วยกันนำเรือลอยคอเกี่ยวข้าวหนีน้ำกันตลอดทั้งวัน ในขณะนี้ต้องการให้หน่วย
งานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือชดเชยเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
เนื่องจากน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากภาครัฐที่ปล่อยน้ำลงคลองระพีพัฒน์
มากเกินไป จนล้นทะลักมาท่วมแปลงนาข้าว
ด้านนายศุภฤกษ์ กลั่นกล้า นายก อบต. สามเรือน กล่าวว่า กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย
เสนอไปยังอำเภอและจังหวัดเพื่อขอรับการช่วยเหลือ เพราะน้ำท่วมสร้างความเสียหาย
และจะต้องเร่งประชุมร่วมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่สองฝั่งคลองโพธิ์ที่ได้รับ
ผลกระทบและหน่วยงานกรมชลประทานในการหาทางแก้ไขน้ำที่ไหลเข้ามามากและไม่มี
ทางออก ซึ่งล่าสุดชาวนาเสนอให้เปิดประตูระบายน้ำบ้านหว้าเพื่อดันน้ำลงเจ้าพระยาได้
เพราะว่าระดับน้ำในคลองโพธิ์สูงกว่าระดับน้ำเจ้าพระยาถึง 1 เมตรเช่นกัน