TOYOTA Corolla Axio สองสไตล์ใหม่โดนใจคนวัยมันส์

          ได้เวลาของการเปลี่ยนโฉมให้ทันยุคสมัยกันแล้วสำหรับรถยนต์ยอดนิยมจากค่าย TOYOTA โดยการมาครั้งนี้เป็นทีของ "โคโรลล่า แอ็คซิโอ" (Corolla Axio) หน้าตาให้เลือก 2 สไตล์ พร้อมกับขุมพลังอีก 2 ขนาด ตามแต่ความชอบของแต่ละคน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นาน จะกลับมาครองใจผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปเหมือนเช่นเคย

          การเปลี่ยนโฉมของ Corolla Axio ครั้งนี้มีหน้าตาให้เลือกใช้กัน 2 เวอร์ชั่นทั้งแบบหรูและแบบสปอร์ต โดยจะมีจุดหลักที่แตกต่างกันบางจุด นับตั้งแต่กระจังหน้าของเวอร์ชั่นหรูจะเป็นกระจังโครเมี่ยมแบบซี่ถี่เรียงกันแนวตั้ง ส่วนเวอร์ชั่นสปอร์ตจะเป็นแนวยาวสองชั้นและรุ่นนี้จะไม่มีไฟตัดหมอกติดตั้งมาให้ที่บริเวณกันชน สำหรับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็คเตอร์รูปทรงสวยช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับด้านหน้าได้เป็นอย่าง

          ส่วนกันชนออกแบบสปอร์ตเร้าใจกึ่งกลางเจาะเป็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่ก่อนจัดให้ชายล่างยื่นยาวเล็กน้อยเป็นสปอยเลอร์ในตัว ด้านข้างเพิ่มมิติให้กับตัวรถด้วยโป่งล้อขนาดใหญ่ กระจกมองข้างทรงสวยฝังไฟดวงเล็กไว้ที่มุม ด้านท้ายจะเห็นไฟท้ายทรงเหลี่ยมก้อนโต ปิดท้ายด้วยกันชนทรงสวยมีเส้นโค้งเว้าพอประมาณ มิติ ยาว/กว้าง/สูง เท่ากับ 4,360/1,695/1,460 (รุ่น 4 WD 1,485) มิลลิเมตร ระยะแทรคหน้า/หลัง 1,480/1,470 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อเท่ากับ 2,600 มิลลิเมตร

          ห้องโดยสารออกแบบลงตัวและน่าสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นแดชบอร์ทที่โค้งมนดูสบายตา และเล่นสเต็ปบางส่วนเพื่อจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว มาตรวัดค่าให้มาสามวงวางซ้อนก่อนเสริมความสปอร์ต ภายในวงหลักและวงซ้ายมือแทรกด้วยทริปดิจิตอลบอกค่าอื่น ๆ ที่จำเป็น พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นทรงสปอร์ตหุ้มหนังสลับกับแถบลายไม้ดูสวยงาม ด้านข้างพวงมาลัยฝั่งขวามือบนสุดเป็นช่องแอร์ทรง

          ถัดมาเป็นปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เคียงคู่กับปุ่มปรับกระจกมองข้างคอนโซลกลางด้านบนเป็นช่องแอร์เล็ก ๆ สองช่องถัดมาเป็นชุดขับกล่อมพร้อมหน้าจอ LCD แสดงระบบนำทาง ขยับลงมาอีกนิดจะพบกับระบบปรับอากาศดิจิตอลให้ความเย็นทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตามต้องการ จากนั้นจึงเว้าหลบให้ดูมีลูกเล่น พร้อมกับเจาะช่องเก็บ สำหรับเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าชั้นดีทำความสะอาดง่าย แถวสองเน้นความสบายด้วยที่พักแขนกึ่งกลาง และตกแต่งส่วนอื่น ๆ ภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้ให้ดูหรูยิ่ง

เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 บล็อก เป็นเครื่องเบนซินรหัส 1 NZ-FE 4 สูบ DOHC 1,496 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชักเท่ากับ 75.0 x 84.7 มิลลิเมตร ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 ให้กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด จะลดกำลังอัดลงมาหน่อยอยู่ที่ 10.5 ส่วนแรงม้ามีเท่ากับรุ่นเกียร์อัตโนมัติแต่แรงบิดจะเพิ่มขึ้นเป็น 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ในรุ่นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 WD จะเป็นเครื่องยนต์รหัสเดียวกัน แต่มีเรี่ยวแรงให้ใช้งานสูงสุด 76 กิโลวัตต์ (103 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 132 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

          ส่วนอีกบล็อกเป็นเครื่องยนต์เน้นประหยัดรหัส 1 NR-FE ขนาดความจุ 1,329 ซีซี. มีพละกำลังทั้งหมด 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังขับเคลื่อนลงที่ล้อคู่หน้า

          ทั้งนี้ในส่วนของจำหน่ายนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมาแต่อย่างใด ซึ่งหากมีความคืบหน้าใด ๆ ออกมา ทางกระปุกดอทคอมจะรีบนำมาแจ้งให้ได้ทราบกันในทันทีครับ