วันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานความคืบหน้าคดียิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เสียชีวิต ภายหลังจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 55 ตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำตัวนายมั่น พูลทรัพย์ ผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 40 ปี ชาว จ.ราชบุรี มาแถลงข่าวการขอมอบตัว โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืน 9 มม.ใส่รถนายฟารุตฯ จริง แต่ปฏิเสธว่าเป็นผู้เริ่มยิงก่อน
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ เปิดเผยว่า จากการที่ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าเป็นผู้ยิงปืนใส่รถของนายฟารุตจริง และยืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แจ้งข้อหานายมั่น 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่ชุมชน ก่อนที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ส่วนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องพยายามสอบสวนหาความจริงในหลายเรื่อง โดยเฉพาะ 3 เรื่องหลักๆ คือ เรื่องของผู้ที่เปิดฉากยิงก่อน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายให้การไม่ตรงกัน โดยกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ยิงก่อน แต่จากข้อมูลที่ตนมีอยู่ขณะนี้ก็พอจะทราบความจริงบางส่วนแล้วประมาณ 70% ส่วนที่เหลือต้องรอผลการพิสูจน์ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งการตรวจสอบวิถีกระสุน พฤติการณ์ของผู้ยิงปืนทั้ง 2 ฝ่าย และความสอดคล้องอื่นๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าในวันจันทร์ที่ 3 กันยายนนี้ น่าจะทราบผล ส่วนเรื่องปลอกกระสุนปืน .380 ปริศนา ที่ตกอยู่ในรถของนายฟารุตนั้น ก็ต้องประสานให้ฝั่งของ ส.ส.ชาดา มาชี้แจงด้วย
ส่วนเรื่องของกระสุนปืนที่สังหารนายฟารุต ก็เป็นปัญหาที่ตำรวจยังข้องใจมาก ว่าเป็นกระสุนปืนชนิดใดกันแน่ เพราะถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินคดีนี้ ซึ่งวันจันทร์นี้ตนก็จะติดต่อกับ ส.ส.ชาดา เพื่อขออนุญาตผ่าศพนายฟารุตฯ เอากระสุนปืนมาพิสูจน์ให้ชัดเจน และเรื่องที่ 3 คือการสอบปากคำพยานฝั่ง ส.ส.ชาดา ซึ่งตอนนี้ก็ยังยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ รถคู่กรณีมีอยู่ด้วยกัน 2 คน ดังนั้นก็ต้องมีหลักฐานและพยานมายืนยันด้วย
พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า ส่วนปืนขนาด 9 มม.ของนายมั่นนั้น ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าได้นำไปทิ้งในบริเวณบ้านขนงพระ อ.ปากช่องตามคำสารภาพจริง เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงน่าจะหาพบแล้ว แต่จากการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ทำการค้นหาแบบปูพรมทุกตารางนิ้ว รวมถึงประกาศตั้งรางวัลให้ชาวบ้านที่เก็บได้นำมาคืนแล้วก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ยังหาไม่พบ ดังนั้นในวันจันทร์นี้จะต้องเรียกนายมั่นมาเค้นความจริงอีกครั้ง