ดาราสาว "พลอย-เฌอมาลย์" พร้อมที่ปรึกษากฎ หมายแถลงข่าว ชี้แจงเกิดปัญหากับออร์แกไนเซอร์ จนถูกแฉกลับว่า ใช้ชื่อคนอื่นหักภาษีแทน ดาราสาวยอมรับใช้คำพูดรุนแรงต่อไปจะระมัดระวังมากกว่านี้ ร่ำไห้หลังถูกโจมตีในเน็ต ยันช่วงนี้ของดรับงานจากคู่กรณี ด้านที่ปรึกษากฎหมายอ้างสนง.บัญชีส่งบัตรประชาชนไปผิด ตอนนี้ให้แก้ไขแล้วและพร้อมชี้แจงเรื่องภาษี ส่วนอธิบดีกรมสรรพากรย้ำชัดกรณีพลอย ผิดทุกฝ่ายทั้งดารา-ผู้จ่ายเงิน และผู้รับเงินแทน สั่งสรรพากรพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ย้ำทำได้ทันทีไม่ต้องรอหมดปีภาษีก่อน พร้อมให้เข้มงวดการตั้งคณะบุคคลเพื่อหลบเลี่ยงภาษีของกลุ่มดาราด้วย ขณะที่ดาราอาวุโสทั้งสรพงศ์-นิรุตติ์-เนาวรัตน์ แนะอย่าเลี่ยงภาษีเพราะไม่รอด เนื่องจากสรรพากรตรวจสอบได้ง่ายแค่ดูโฆษณาหรือข่าวจากสื่อก็รู้แล้วว่าดาราแต่ละคนมีงานอะไรบ้าง
จากกรณีปัญหาขัดแย้งเรื่องค่าตัวระหว่างดาราสาว "พลอย"เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ กับออร์แกไนเซอร์แห่งหนึ่งที่มีปัญหาการหักภาษี ทำให้ตัวแทนออร์แกไนเซอร์ ออกมาแฉว่าจ่ายค่าตัวให้ดาราสาวเป็นชื่อของบุคคลอื่นที่มีอายุถึง 77 ปีแล้ว จนกรมสรรพากรมีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งดารารายอื่นๆ ด้วยนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นางเอกสาว "พลอย"เฌอมาลย์ เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวยาสีฟันคอลเกต ออพติค ไวต์ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก หลังเสร็จงานดาราสาวพร้อมด้วย นางธัญดา นิลภิรมย์ มารดา, นายก้อง หิรัญรงค์ ที่ปรึกษากฎหมาย และนางภิญญดา เบญจมหากิจ ผู้จัดการส่วน ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น
พลอยกล่าวว่าเรื่องราวเกิดจากเฟซบุ๊ก ที่ทางนั้นกล่าวหาผู้จัดการว่าโกงเงิน จึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องแต่ตอนนี้ประเด็นเบี่ยงเบนไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นขอโทษที่ใช้คำพูดรุนแรง ไม่มีสติควบคุมอารมณ์ ขอโทษแฟนคลับและคนที่รัก ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นทำให้พูดโดยไม่ยั้งคิด สำหรับบริษัทแอบโซลูท ออแกไนเซอร์ คู่กรณีต้องขอชะลอการทำงานไปก่อน เพราะไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่โต จนกลายเป็นจำเลยของสังคม ภาพพจน์ดูเป็นคนเลวไปเลย แต่สิ่งหนึ่งคืออยากจะขอโทษที่พูดรุนแรง แม้จะเป็นนักแสดงแต่มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป เมื่อโดนกระทำมาก็จำเป็นจะต้องโต้ตอบ แต่หลังจากนี้ก็คงต้องควบคุมสติมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกอย่างไรกับพวกนักเลงคีย์บอร์ด(คนเล่นอินเตอร์ เน็ต) ถึงตอนนี้นางเอกสาวกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร่ำไห้ออกมา พร้อมกล่าวว่า ค่อนข้างเครียด เสียใจ ที่ถูกกล่าวหาต่างๆ นานา ช่วงปีที่ผ่านมา เจอเรื่องร้ายมามากๆ เหนื่อยและไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ดาราสวยยิ่งร่ำไห้ออกมาหนักขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับบทเรียนอะไรบ้าง พลอยกล่าวทั้งน้ำตาว่า อย่างแรกรู้เลยว่าแม้ว่าจะเป็นนักแสดงมืออาชีพ แต่ยังถือว่าสอบไม่ผ่านในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ในการตอบคำถาม หลังจากนี้ขอยืนยันและสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จะควบคุมสติอารมณ์ และอยากให้เรื่องทุกอย่างจบ ขอทำงานต่อไป
ส่วนปัญหาเรื่องการนำชื่อบุคคลอื่นไปออกภาษีตามที่คู่กรณีนำเอกสารออกมาแฉนั้น นายก้อง ที่ปรึกษาทางกฎหมาย กล่าวชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดกับทางออร์แกไนซ์นั้น พลอยรับหน้าที่ทำงาน ส่วนเรื่องบัญชีและกฎหมายมีสำนักงานที่คอยดูแลและจัดการเรื่องนี้อยู่ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทแอบโซลูท ทำเรื่องขอเอกสารเพื่อไปทำเช็คเงิน และหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งปรากฏว่าบัตรประชาชน ที่สำนักงานบัญชีได้ส่งไปไม่ใช่บัตรประชาชนของพลอย แต่เป็นของนายทวีศักดิ์ บุนนาค เมื่อทางพลอยได้รับเช็คและพบว่าชื่อที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่ใช่ชื่อของตัวเอง จึงสอบถามไปทางสำนักบัญชี ได้รับคำตอบว่าส่งบัตรผิดไป หลังจากนั้นทางเราจึงได้ติดต่อไปทางบริษัทแอบโซลูท ขอให้แก้ไขหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่ายใหม่ ซึ่งตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
พร้อมกันนี้ นายก้องนำเอกสารที่ทางบริษัทแอบโซลูทแก้ไขแล้ว มาให้สื่อมวลชนดู ก่อนกล่าวว่าพลอยไม่ได้กระทำความผิด ส่วนประเด็นเรื่องสรรพากร ตอนนี้เข้าไปชี้แจงในเบื้องต้นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และให้ความร่วมมือกับสรรพากร ทุกอย่าง ในส่วนของบริษัทสำนักบัญชี ทางเราเตือนไปว่าให้ระมัดระวังในการทำงานมากกว่านี้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อตัวคุณพลอยและครอบครัว
ต่อข้อถามว่ากลัวคนจะมองหรือไม่ว่าการชี้แจงที่บอกว่า สำนักงานบัญชีส่งบัตรประชาชนผิดเป็นเพียงข้ออ้าง ที่ปรึกษากฎหมายกล่าวว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เนื่องจากหัวหน้าบัญชีของบริษัทนั้นๆ ไม่ได้ติดต่อด้วยตัวเอง ความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งส่งผลมาถึงคนที่ไปว่าจ้าง ดังเช่นกรณีของพลอยเป็นต้น
ด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าทั้งดาราและผู้ที่จ่ายเงินให้ดารา รวมถึงผู้รับเงินแทนมีความผิดทางกฎหมาย ตอนนี้สั่งการให้สรรพากรในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบภาษีย้อนหลังแล้ว หากเป็นผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนถูกปรับย้อนหลัง 10 ปี แต่ถ้ายื่นภาษีมาแล้วเสียย้อนหลัง 5 ปี
นายสาธิตกล่าวว่า ในการตรวจสอบภาษีนั้นสามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้หมดปีภาษี ที่ผ่านมาไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องรอให้ถึงสิ้นปีภาษีก่อนจึงจะตรวจสอบ การตรวจสอบภาษีต้องดูว่าดาราคนนั้นนำรายได้ส่วนที่จะได้มาคำนวณภาษีในปลายปีหรือไม่ ส่วนผู้จ่ายเงินนั้นนำเงินที่จ่ายนั้นมาคิดภาษีหัก ณ ที่จ่ายอย่างไร และต้องดูว่าใครเป็นผู้รับเงิน ถ้าจ่ายเงินให้ผู้ที่ไม่ได้ทำงานถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งหากดำเนินการไม่ถูกต้องสรรพากรสั่งการให้ดำเนินการให้ถูก พร้อมทั้งต้องเสียค่าปรับ รวมถึงดอกเบี้ยที่จะต้องเรียกเก็บจากผู้กระทำผิด
"ที่ผ่านมาทำความเข้าใจกับผู้ที่มีรายได้สูง อาทิ นักแสดง พิธีกร ถึงการเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยพบว่าในกลุ่มดารากระทำผิดเรื่อยๆ แต่มีอัตราน้อยลงกว่าเดิม เพราะหากเป็นดารารุ่นเก่าจะเข้าใจระบบภาษีดีเพราะสรรพากรทำความเข้าใจกับกลุ่มดารามาตลอด ซึ่งสรรพากรเข้าใจว่ากลุ่มดารานั้นสามารถทำงานได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง พอแก่ตัวงานก็จะน้อยลง หรือดาราบางคนที่ทำงานตั้งแต่เด็กต้องทำความเข้าใจกับผู้ดูแลผลประโยชน์ถึงการเสียภาษีให้ถูกต้อง กรมสรรพากรกำลังศึกษาว่าในต่างประเทศนั้นมีการปฏิบัติด้านภาษีกลุ่มดาราอย่างไร" อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว
นายสาธิตกล่าวว่า ส่วนการตั้งคณะบุคคลเพื่อหลบเลี่ยงภาษีของกลุ่มดารานั้น สรรพากรจะเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งพิจารณาว่าคณะบุคคลที่ตั้งขึ้นนั้นเป็นคณะบุคคลเทียมหรือไม่ อาทิ นำคนสวน แม่บ้าน มาร่วมจัดตั้งเป็นคณะบุคคลต้องไปดูว่าคนเหล่านั้นสามารถทำงานตามที่ระบุไว้หรือไม่
ส่วนนักแสดงอาวุโส ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องการเสียภาษี โดย "จิ๊ก"เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ อดีตนางเอกชื่อดังกล่าวว่า สำหรับการเสียภาษีของนักแสดง ทำทุกอย่างตามขั้นตอนแต่ไม่ได้ดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ต้องให้คนที่รู้เรื่องมาช่วยดูแล เนื่องจากภาษีเป็นสิ่งที่ซับซ้อน คนที่ไม่มีความรู้ตรงนี้อาจจะคำนวณผิดพลาดได้ เรื่องภาษีย้อนหลังเชื่อว่าเคยโดนกันทุกคน ส่วนหนึ่งเกิดจากตกหล่นในการเก็บใบกำกับภาษี รวมถึงความไม่เข้าใจซึ่งคิดว่าจ่ายทุกอย่างถูกต้องที่สุดแล้ว โดยเฉพาะอาชีพนักแสดงที่มีรายได้ค่อนข้างสูง เมื่อเกิดความไม่เข้าใจไม่ตรงกัน ทางเจ้าหน้าที่จะมีการชี้แจงว่าตกหล่นในส่วนไหน หลังจากนั้นก็ต้องจัดการให้ถูกต้อง
รอง เค้ามูลคดี นักแสดงรุ่นใหญ่กล่าวว่า ปีที่แล้วจ่ายภาษีไปครบถ้วนแล้วแต่ปรากฏว่ายังต้องเสียเพิ่มอีก 3 แสนบาท ทั้งที่ไม่ได้มีรายได้มากมาย แต่ก็จ่ายเพราะสรรพากรให้ผ่อนจ่ายภาษีได้ ซึ่งในกรณีนี้หากจะเลี่ยงมันมีวิธีที่จะเลี่ยงได้ แต่ในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศไทย ต้องเคารพกฎหมาย เคยมีกรณีพรรคพวกที่รู้จักกันทำงานได้เงินแต่ไม่รับเงินด้วยตัวเอง จ้างวินมอ เตอร์ไซค์และใช้บัตรประชาชนของวินมอเตอร์ ไซค์ในการรับเงินแทน ปรากฏว่าสรรพากรสามารถตรวจสอบได้ สุดท้ายพรรคพวกต้องมาจ่ายภาษีย้อนหลังอยู่ดี
"เอก"สรพงศ์ ชาตรี กล่าวว่าการเสียภาษีเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนในวงการต้องปฏิบัติกัน แค่ไปที่กรมสรรพากรก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำขั้นตอนในการจ่ายภาษี อย่างเรารับงานก็ต้องโดนหักอยู่แล้ว ส่วนตัวไปเองทุกปีที่สำนักงานเขตสรรพากรหลักสี่ ไม่ยากเลย แค่เข้าไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อติดต่อจ่ายเงิน เชื่อว่าเจ้าหน้ายุติธรรมที่สุดแล้วในการให้ข้อมูล
ถามถึงความคิดเห็นที่ดาราบางคนอาจจะมีการหลบเลี่ยงภาษีในปัจจุบัน สรพงศ์เผยว่า "มันหนีไม่พ้นหรอกครับ เดี๋ยวนี้ทำอะไรเขาก็จะมีหลักฐานหมด เช่น เรารับงานโฆษณา หรือเล่นละคร มันก็มีการโปรโมตเห็นๆ กันอยู่ อยากให้ไปจ่ายกันเถอะครับ เพื่อความสบายใจของท่าน เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้ไม่โดนเรียกเก็บมากกว่าเดิม"
ด้าน "หนิง"นิรุตติ์ ศิริจรรยา กล่าวว่าเรื่องจ่ายเงินภาษีเราต้องไปจ่ายให้ตรงเวลา ถ้าไม่ไปจ่ายทางสรรพากรก็จะมีจดหมายเชิญให้เราไปรายงานตัว ส่วนตัวเองเมื่อก่อนก็อาจจะมีละเลยไปบ้าง อาจจะจ่ายช้ากว่ากำหนด เราก็ต้องไปรายงานตัวว่าที่เราจ่ายช้าเพราะอะไร อย่างเมื่อก่อนเวลาเรารับงาน จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ ทางสรรพากรตรวจสอบได้จากทางสื่อ เพราะทุกอย่างมันมีหลักฐานและมีโฆษณาอยู่ในนั้น เราจะไปหลบหลีกไม่ได้