เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หญิงชาวอเมริกัน วัย 31 ปี ถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยด่วน หลังเธอละเมอว่ายน้ำในตอนกลางคืน
รายงาน ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐไอดาโฮของสหรัฐ เมื่อหญิงวัย 31 ปี ที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้หายออกไปจากบ้านในกลางดึกคืนหนึ่ง และเมื่อสามีเธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ ก็ไม่พบเธอ แต่เห็นประตูบ้านเปิดเอาไว้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อออกตามหาเธอ จนในที่สุด ก็พบเธอนอนอยู่ริมแม่น้ำห่างจากบ้านราวครึ่งกิโลเมตร และตัวเธอเย็นเฉียบมาก จึงนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที
จากการสอบสวนพบว่า หญิงรายนี้มักจะละเมอลุกขึ้นมากลางดึกอยู่บ่อย ๆ และเธอคงเดินละเมอออกจากบ้านมาว่ายน้ำในแม่น้ำ ก่อนที่จะรู้สึกตัว และนอนหนาวอยู่ริมแม่น้ำดังกล่าว
ทั้ง นี้ จากข้อมูลของทางการพบว่า ปัจจุบันมีชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่เป็นโรคนอนละเมอ 1 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวอเมริกันวัยเด็กที่มักนอนละเมอ มีจำนวน 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อเติบโตขึ้น อาการนอนละเมอดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง และหายไปเอง แต่ก็ยังมีชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ยังคงมีอาการนอนละเมออยู่ และมักจะละเมอลุกขึ้นมาทำอะไรหลาย ๆ อย่าง โดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง