วัฒนธรรมตะวันตก การสวมแหวน แต่งงาน หรือแหวนหมั้นจะสวม อยู่ในนิ้วนางข้างซ้าย แหวนนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความซื่อสัตย์ต่อกัน วัฒนธรรมการ สวมแหวนแต่งงาน แม้จะเป็นของชาวตะวันตก แต่ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศเราเองอย่างที่เห็นๆ กันอยู่
ที่มาของการเลือกให้นิ้วนางข้างซ้าย เป็นนิ้วสำหรับ สวมแหวนแต่งงาน
เกิดขึ้นเพราะคนสมัยโบราณเชื่อว่านิ้วนางข้างซ้ายนั้นเป็นที่ตั้งของเส้น เลือดแห่งความรัก ทั้งนี้ ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะทำให้มนุษย์ทราบระบบการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต คนโบราณเชื่อว่าเส้นเลือดบนนิ้วนางเชื่อมต่อไปยังหัวใจ อันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก โดยความความเชื่อดังกล่างมีการอ้างว่าเป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นในอาณาจักรก รีกโบราณ เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนคริสตกาล
ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างมือและหัวใจ จึงมีการตั้งชื่อเส้นเลือดดังกล่าวว่า vena amori อันเป็นภาษาละตินซึ่งมีหมายความว่า เส้นเลือดแห่งความรัก (vein of love) ตามความเชื่อดังกล่าว ผู้คนจึงยอมรับให้สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างซ้าย และการ สวมแหวนแต่งงาน ในนิ้วนางข้างซ้ายนี้เองเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า คู่แต่งงานได้ประกาศมอบความรักนิรันดรให้แก่กันและกัน จนกลายเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาในยุโรปจนถึงทุกวันนี้
ในสมัยกลางในยุโรป พิธีแต่งงานของชาวคริสต์จะมีการ สวมแหวนแต่งงาน เรียงกันมาตั้งแต่ นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง ของมือข้างซ้าย เพื่อแสดงถึงหลักตรีเอกานุภาพของศาสนา อันได้แก่ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ก่อนที่ในเวลาต่อมา คู่สมรสจะสวมเพียงนิ้วนางข้างซ้ายเพียงนิ้วเดียว
ในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ แหวนแต่งงานจะสวมบนนิ้วนางข้างซ้าย อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ เช่น เยอรมนี และชิลี แหวนแต่งงานจะถูกใช้สวมบนนิ้วนางข้างขวาแทน ชาวคริสต์นิกายออทอดอกซ์ พวกยุโรปตะวันออกและชาวยิวมีธรรมเนียมการสวมแหวนแต่งงานข้างขวาเช่นกัน ขณะในเนเธอร์แลนด์ และกลุ่มชาวคริสต์นิกายคาทอลิกจะสวมแหวนแห่งความรักนี้บนนิ้วนางข้างซ้าย
ที่มาจาก samunpri.com