รูป สุดยอดภาพถ่ายอมตะตลอดกาล 2

Casualties of war (1991)



ทหารหนุ่มในรูปร้องไห้ออกมาเมื่อทราบว่าถุงศพที่อยู่ข้างตัวนั้นคือเพื่อน
ของเขาเองรูปนี้กลายมาเป็นหนึ่งในรูปอันมีชื่อเสียงของสงครามอ่าว





The Falling Man (2001)



ริ ชาร์ด ดรูว์ถ่ายรูปนี้ในเหตุการณ์ 9/11 หากหลังจากที่ลงในหนังสือพิมพ์ไปเพียงครั้งเดียว มีประชาชนมากมายส่งข้อความเข้ามาคัดค้านว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมและไม่เคารพ ต่อผู้ตายกล่าวกันว่าชายในรูปเป็นหนึ่งในคนที่ยอมกระโดดลงมาจากตึก ดีกว่ายอมเสียชีวิตอยู่ข้างในด้วยไฟและควัน
ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าชายในรูปเป็นใคร หากบุคคลที่มีความเป็นไปได้
ที่สุดนั้นถูกกล่าวว่าคือไมเคิ่ล โลโมนาโค





U.S. Marines raising the flag on Iwo Jima (1945)



รูปภาพประวัติศาสตร์นี้บันทึกการปักธงอเมริกาบนเกาะอิโอในประเทศญี่ปุ่น และเป็นเพียงรูปเดียวที่ได้รับรางวัลพูลลิตเซอร์ของปีนั้น

Lunch atop a Skyscraper (1932)



รูปนี้ถ่ายบนตึก GE ขณะกำลังถูกสร้างที่ร็อคเฟลเลอร์เซนเตอร์
แสดงให้เห็นคนงานซึ่งทานอาหารกลางวันของพวกเขาบนยอดตึก
ที่กำลังสร้างอยู่




Migrant Mother (1936)



รูปนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวิกฤตเศรฐกิจโลก
ช่าง ภาพโดโรธี เลนจ์ถ่ายรูปนี้หลังจากที่ฟลอเรนซ์ โอเวน ทอมป์สันขายเต็นท์ของตัวเองเพื่อซื้ออาหารประทังชีวิตลูกเจ็ดคนของเธอ ฟลอเรนช์กล่าวว่าเธอประทังชีวิตด้วยการจับนกและเก็บผลไม้มากินเป็นอาหาร
รูปนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไปและเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนที่มีต่อผู้อพยพ
ไปโดยสิ้นเชิง





Omayra Sánchez (1985)



โอมายร่าอายุ 13 ปีและเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจากการระเบิดของภูเขาไฟเนวาโด เดล รุยส์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 13000 ราย
ขณะ ที่มีการออกข่าวสภาพหลังจากระเบิดของภูเขาไฟนั้น โอมายร่ายังมีชีวิตอยู่ เธอติดอยู่ในหลุมใต้บ้านของตัวเอง ขาถูกเศษหินภูเขาไฟและคอนกรีตหนีบไว้และแช่อยู่ในน้ำที่สูงจนถึงคอ เจ้าหน้าที่กาชาดซึ่งไปถึงที่เกิดเหตุพยายามช่วยเหลือด้วยการวิดน้ำออกและขอ ความช่วยเหลือจากรัฐบาล เมื่อทุกคนรู้ว่าไม่มีทางช่วยเด็กหญิงออกมาได้ พวกเขาก็อยู่กับเธอในที่นั้นเพื่อภาวนาและให้กำลังใจโอมายร่าในตอนแรกโอมาย ร่ายังแสดงท่าทีเข้มแข็งด้วยการร้องเพลง
หากเมื่อผ่านไปสามวัน เธอก็เริ่มเห็นภาพลวงตาและเสียชีวิตไปในที่สุด
ภาพนี้ถ่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่โอมายร่าจะเสียชีวิต

A vulture watches a starving child (1993)



เด็ก น้อยในรูปนอนฟุบอยู่กับพื้นด้วยความหิวโหย โดยมีสายตาของอีแร้งจับจ้องอยู่อย่างคาดหวัง รูปนี้ถ่ายขึ้นระหว่างภัยแล้ง ครั้งใหญ่ของทวีปแอฟริกาที่ซูดานเควิน คาร์เตอร์ ช่างภาพเจ้าของรูปนี้ เดิมเป็นหนึ่งในช่างภาพที่เดินทางไปซูดานเพื่อถ่ายภาพความโหดร้ายของนโยบาย แยกคนต่างผิวในแอฟริกา
คาร์เตอร์ได้รับรางวัลพูลลิตเซอร์จากรูปถ่ายนี้ หากภาพอันโหดร้ายในซูดานก็ตามมาหลอกหลอนจนเขาฆ่าตัวตายหลังจากรับรางวัลได้ไม่นานนัก






Biafra (1969)



หลัง จากที่เบียฟราประกาศตนเป็นอิสระจากไนจีเรีย ทางไนจีเรียจึงได้ประกาศการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจส่งผลให้ในระหว่างสงครามซึ่ง กินเวลาสามปีนี้ มีชาวเบียฟราเสียชีวิตกว่าล้านคน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่นั้นเนื่องมาจากความอดอยาก และทำให้เบียฟราล่มสลายไปในที่สุดดอน แมคคัลลินผู้ถ่ายรูปนี้
ได้กล่าว ถึงเด็ก 900 คนที่รอความตายอยู่ในค่ายเดียวกันว่าน่าสะเทือนใจจนเขาไม่มีอารมณ์จะไปถ่าย รูปทหารที่ไหนอีกแล้วภายหลัง สหประชาชาติในยื่นมือ
เข้ามาช่วยเหลือผู้อพยพจากเบียฟราซึ่งรวมตัวกันเพื่อหาทางก่อตั้งประเทศของพวกตนขึ้นอีกครั้ง




Misery in Darfur (2004)



รูป นี้ถ่ายในระหว่างสงครามกลางเมืองที่ดาร์ฟูร์ในไนจีเรียซึ่งทำให้เกิดผู้ลี้ ภัยสงครามกว่าหลายล้านคน เป็นภาพของเด็กน้อยที่กอดมืออันผ่ายผอมของแม่ไว้ราวกับเป็นสิ่งเดียวในโลก ที่สามารถคุ้มครองเขาได้

Tragedy in Oklahoma (1995)



นัก ดับเพลิงผู้นี้เสียเวลาถอดถุงมือก่อนที่จะรับเด็กผู้เคราะห์ร้ายจากตำรวจใน การวางระเบิดที่ตึกสำนักงานรัฐบาลในโอกราโฮม่าซิตี้ เพราะเขารู้ดีว่าถุงมือดับเพลิงนั้นหนาและหยาบเกินที่จะสัมผัสผิวซึ่งเต็มไป ด้วยบาดแผลได้

การวางระเบิดครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 168 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กอยู่ถึง 19 ราย หากที่ช็อคโลกยิ่งกว่านั้นคือคนร้ายเป็นชาวอเมริกานี่เอง เนื่องจากรถที่ใช้ในการวางระเบิดถูกจอดที่ชั้นหนึ่งใกล้กับศูนย์รับฝาก เลี้ยงเด็ก เด็กในที่นั้นจึงเสียชีวิตทั้งหมดคริส ฟิลด์ซึ่งเป็นนักดับเพลิงในรูปนี้รับร่างของเด็กผู้เคราะห์ร้าย
มาอุ้มอย่างทนุถนอม โดยหารู้ไม่ว่าเด็กหญิงเบย์ลี่ วัย 1 ขวบนี้ได้สิ้นลมหายใจไปเสียแล้ว





How Life Begins (1965)



เลน นาร์ท นิลสันเป็นช่างภาพและนักวิทยาศาสตร์ เขาถ่ายรูปเหล่านี้ขึ้นด้วยกล้องส่องอวัยวะภายใน และได้รับการว่าจ้างโดยบรรณาธิการนิตสารไลฟ์ เพื่อทำคอลัมภ์ที่มีความยาวกว่า 16 หน้าลงนิตยสารหากมีเสียงคัดค้าน
จากผู้อ่านอย่างรุนแรงว่าขาดศีลธรรมจนถึงขั้นมีการประท้วง




First Flight (1903)



17 ธันวาคม 1903 คือวันที่โลกบันทึกไว้ว่าพี่น้องตระกูลไรท์ทดลองการบินสำเร็จเป็นครั้งแรกใน ประวัติศาสตร์มนุษย์ในครั้งแรก พวกเขาบินอยู่ได้เพียง 12 วินาที
หากในวันเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็เพิ่มสติถิการบินเป็นหนึ่งนาที ในรูปนี้
 วิลเบอร์ผู้พี่เพิ่งจะปล่อยมือจากปีกเครื่องบินซึ่งออร์วิลล์ผู้น้องเป็นคนขับ




Earthrise (1968)



วิ ลเลี่ยมส์ อันเดสถ่ายรูปนี้จากยานอพอลโล่ 8 ซึ่งวนรอบดวงจันทร์โดยไม่ได้ลงจอด ถือเป็นรูปแรกที่ถ่ายโลกจากในอวกาศ และสร้างกระแสการอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมมากที่สุดรูปหนึ่ง

Credit: http://ohx3.exteen.com/20091221/entry
24 ส.ค. 55 เวลา 22:50 9,667 4 150
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...