จวกแหลก ไม่สวย ไม่เก่ง มิสเวิลด์ จีนได้มงกุฎค้านสายตา
''''ณวัฒน์'''' เผย ''''ณฉัตร''''โกรธและเสียใจจนถึงกับปล่อยโฮหลังชวดชิง ตำแหน่งมิสเวิลด์ 2012 ลั่น! ปีหน้าอยากเลิกส่งสาวงามจากไทยเข้าประกวดมิสเวิลด์ เหตุกรรมการตัดสินไม่เป็นธรรมค้านสายตาชาวโลกเพราะเลือก''''หยู เหวินเซียะ'''' สาวงามจากจีนคว้ามงกุฎ ทั้งที่รูปร่างไม่ดีแถมภาษาอังกฤษพื้นฐานไม่ได้ พร้อมตั้งสงสัยสาวงามจากไทยอดซิวรางวัลมิสมัลติมีเดียทั้งที่คะแนนโหวตมาเป็นอันดับต้นๆ
ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการตัดสินการประกวดมิสเวิลด์ 2012 ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค.55 ณ สนามกีฬาตงเชง เมืองออร์โดส อินเนอร์มองโกเลีย ในเขตปกครองของประเทศจีน โดยสาวงามที่สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2012 ไปครอบครองได้แก่ ''''หยู เหวินเซียะ'''' นักศึกษาสาวจีนวัย 23 ปี ขณะที่ตัวเต็งอย่าง รัสเซีย, ฝรั่งเศส,เปอร์โตริโก และปานามา ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้แม้แต่คนเดียว รวมถึงด้านตัวแทนจากเมืองไทย ''''ณฉัตร วัลเณซ่า เมืองโคตร'''' ต้องกลับบ้านมือเปล่าเพราะไม่ผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย
ทั้งนี้หลังจากมีการประกาศผลออกมาอย่างเป็นทางการดูเหมือนว่า กองประกวดและคณะกรรมการในการจัดการมิสเวิลด์จะถูกวิภาควิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของผู้ที่ได้ตำแหน่งจากทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพราะเป็นการตัดสินที่เรียกได้ว่าค้านสายตาชาวโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ''''หยู เหวินเซียะ'''' มีบุคลิกและการใช้ภาษาอังกฤษที่จัดว่าอยู่ในระดับปลายแถวของผู้เข้าประกวดบนเวทีนี้ ซึ่งจากผลการตัดสินที่ออกมาในครั้งนี้ ก็ทำให้มีกระแสข่าวลือว่าสาเหตุที่สาวนางงามจากจีนได้มงกุฎปีนี้ เนื่องมาจาก ''''จูเลีย มอร์เลย์'''' ประธานของการประกวดมิสเวิดล์ในปัจจุบัน มีผลประโยชน์ช่วยฟอกเงินให้กับนักธุรกิจรวมถึงนักการเมืองบางคนของจีน โดยลือกันว่าเธอมีเงินมหาศาลนับหมื่นล้าน ซึ่งจากสาเหตุต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นได้สร้างความไม่เข้าใจและไม่พอใจให้กับหลายคนโดยเฉพาะ ''''ณวัฒน์ อิสรไกรศีล'''' ผู้จัดประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการนำสาวงามจากไทยร่วมประกวดมิสเวิลด์ 2012 ได้เปิดเผยความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินในการประกวดในครั้งนี้ว่า ปีนี้ตัดสินได้อย่างค้านสายตาชาวโลกมาก เพราะคุณสมบัติของผู้ที่คว้ามงกุฎในปีนี้ ไม่ดีเอาซะเลย โดยยังเผยว่าตนคิดว่ามีการจงใจอยากให้จีนคว้ามุงกุฎมิสเวิลด์ในปีนี้ไปครอง พร้อมลั่น! ปีหน้าอยากเลิกส่งสาวงามจากไทยเข้าประกวดมิสเวิลด์
''''ผลการตัดสินเป็นไปอย่างค้านสายตาชาวโลก แบบไม่ชอบมาพากล ยังไงจีนก็ไม่ติดหนึ่งในสามแน่นอน เนื่องจากเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ขนาดตอนเย็นยังพูดว่ากู๊ดมอร์นิ่ง ซึ่งบ่งบอกให้รู้เลยว่าความรู้เธอไม่มี อีกทั้งรูปร่างเธอก็ไม่ได้ดีเลย ไม่มีหน้าอก เอวหนา มีพุง และตัวเต็งอย่างรัสเซีย, ฝรั่งเศส, เปอร์โตริโก, ปานามา หายไปไหนหมดในรอบลึกๆ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าจงใจอยากให้จีนได้มงกุฎนี้ไป ขณะที่การชิงตำแหน่ง ''''มิสมัลติมีเดีย'''' (Miss Multimedia ) ที่ตัดสินจากการโหวตนั้นคนไทยโหวตให้ ''''ณฉัตร'''' เป็นแสนคะแนนมาเป็นอันดับต้น แต่สาวงามจากอินเดียได้รางวัลนี้ไปเฉยเลย ซึ่งพอการตัดสินในปีนี้ออกมาแบบนี้ ทำให้ปีหน้าไม่อยากส่งนางงามเข้าร่วมประกวดแล้วหากยังตัดสินได้ไม่เป็นธรรม''''
เมื่อถามถึงหลังจากการประกวดมีการได้พูดคุยกับตัวแทนสาวไทย ''''ณฉัตร'''' บ้างหรือเปล่า และเธอได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ''''ณวัฒน์'''' กล่าวว่าหลังจากทราบผล ''''ณฉัตร'''' ก็ปล่อยโฮเพราะรู้สึกโกรธและเสียใจเหมือนกับสาวงามจากประเทศอื่นๆ ที่ตกรอบ
''''หลังจากได้พูดคุยกับ ''''ณฉัตร'''' นั้น เธอเอาแต่ร้องไห้ รู้สึกเสียใจและเหมือนถูกหลอกให้ไปทำกิจกรรม และบอกตนว่า หนูเป็นคนที่ธรรมะธัมโม ใจเย็น แต่ครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกเสียใจและโกรธโมโหสุดๆ และนางงามจากต่างชาติก็รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ และแทบอยากจะวอล์กเอาต์ไม่ขึ้นเวทีอีกเลย แต่เธอก็ต้องขึ้นเพราะมีคำว่าประเทศไทยค้ำประกันอยู่ไม่อยากทำร้ายชื่อเสียงประเทศ''''
อย่างไรก็ตามทั้งนี้ ''''ณฉัตร'''' มีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 19 ส.ค.นี้ด้วยเที่ยวบิน TG615
ณฉัตร วัลเณซ่า เมืองโคตร