ทางเลือกของการดูแลวิถีชีวิต เพื่อป้องกันการเกิดโรค

 

ท่านทราบหรือไม่ วิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ทั้งการดำเนินชีวิตในครอบครัวและที่ทำงาน  รับประทานอาหารเมนูด่วนแนวตะวันตกเพิ่มขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น รีโมทคอลโทรล โทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์ (internet) สั่งอาหารส่งตรงถึงบ้าน ลิฟท์หรือ

บันไดเลื่อน ในด้านการทำงาน ส่วนใหญ่ นั่งโต๊ะทำงาน เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ต้องแข่งขัน กังวลกับเรื่องการหารายได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง มี

ความเครียดเรื้อรัง บางรายดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก ที่ส่งผลต่อสุขภาพ  ทั้งยังรับประทานผักผลไม้น้อย ทานอาหารรสหวาน มัน เค็ม จัด

และปริมาณมากเกินจนขาดความสมดุลกับการใช้พลังงาน    วิถีชีวิตเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงให้คนไทยเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน

หัวใจ ไต และอัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งเราเรียกรวมๆ ว่า " โรควิถีชีวิต" เป็นจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี  ก่อให้เกิดความสูญเสียมากมาย

ไม่ว่าจะเจ็บป่วย มีภาระค่ารักษา หรือขาดรายได้ บางคนมีความพิการหรือเสียชีวิต  เป็นภาระแก่ครอบครัว  สังคม รวมถึงประเทศ

 

 

ทางเลือกที่ขอเสนอเพื่อให้ทุกท่านตัดสินใจเลือกปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงโรค ดังกล่าว คือ

 

ประเมินตนเองว่าวิถีชีวิตของท่านมีปัจจัยเสี่ยง ดังกล่าวข้างต้นหรือไม่

 

หากมีปัจจัยเสี่ยง ให้ตัดสินใจตั้งเป้าและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ลดความเสี่ยงนั้น

 

โดยเริ่มจากการตัดสินใจในการเลือกรับประทานอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพดีในปริมาณที่สมดุลกับการออกแรงกาย หากน้ำหนักเกิน หรือ อ้วนแล้ว ควรรับประทานอาหารน้อยกว่าการใช้แรงกายในแต่ละวัน น้ำหนักจึงจะลดลง

 

ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน โดยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น นั่งทำงาน 2ชั่วโมง อาจพักบริหารร่างกายส่วนคอ  แขน ขา ลุกเดินบ้าง เป็นต้น  และหากต้องการป้องกันโรคด้วย ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ หรือ วันละ 30 นาที 5 วันต่อ

 

ทางด้านอารมณ์และจิตใจ หากเครียด ควรหาทางจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น ฟังเพลง รดน้ำต้นไม้ เดินเล่นกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น นอกจากนี้ใจยังต้องนำร่างกาย เตือนร่างกายให้ออกกำลังกาย และเลือกอาหารรับประทานที่ดีต่อสุขภาพ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสถานที่มีควันบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องที่มีแอลกอฮอล์

 

รับประทานอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพดี คือ ในหนึ่งวัน กินอาหารครบ 5 หมู่ กินผักครึ่งกิโลกรัม กินผลไม้รสหวานน้อย 2-4 ส่วน ( 1 ส่วน เช่น ส้ม ขนาดกลาง 2 ผล มะละกอ /แตงโม 6-8 ชิ้นพอคำ เป็นต้น) สำหรับการกินน้ำตาล ไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำมัน 6 ช้อนชา และเกลือ 1 ช้อนชา (หากเติมน้ำปลา ซีอิ้ว หรือกินขนมกรุบกรอบ แล้วให้ลดเกลือที่ปรุงอาหารลง โดยเฉลี่ยทั้งวันแล้วกินเกลือรวมไม่เกิน 1ช้อนชา)

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...