โลกประจักษ์ มวย…นางงาม มหาอำนาจจีน ที่ค้านสายตาคนดู
Mthai news: ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าข่าวไหนที่เกี่ยวกับข้องประเทศจีน ก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากบรรดาพี่ไทย ที่จะโยงเข้ากับเรื่องมวยโอลิมปิกที่พลาดเหรียญทองไปแบบน่าเจ็บใจเมื่อ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา
เพราะกระแสข่าวที่กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ คงหนีไม่พ้นของทัพนักกีฬาไทยที่ร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก จนคว้าเหรียญรางวัล 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ได้สำเร็จ แต่ทว่า เหรียญทองที่พลาดไปของ แก้ว พงษ์ ประยูร ในการชกกับ ซู ซิ หมิง จากจีน ในมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 49 กก.ก็เกิดข้อครหาว่าไม่มีความเป็นธรรมในการตัดสิน
กระทั่งสื่อนอก ต่างก็รายงานว่า ในการชกชิงเหรียญทองของแก้ว พงษ์ประยูร นั้น เป็นการถูกปล้นเหรียญทองไปอย่างชัดเจน ว่ากันว่ามีปัจจัยที่ทำให้กรรมการกดคะแนนให้จีน ผ่านฉลุยมาตั้งแต่รอบแรก ราวกับว่า เตรียมมอบเหรียญให้กับมหาอำนาจอย่าง “ไชน่า”ไว้เรียบร้อยแล้ว หากย้อนกลับไปดูลักษณะการชกของ ซู ซิ หมิง ก็ไม่ได้ชกแบบดุเดือด ท้าชนเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับกับคะแนนที่วัดจากการมองจากสายตาของกรรมการเพียงไม่กี่คน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าคนไทยจะค้างคาใจผลการตัดสิน แต่สื่อของจีน อย่างเว็บไซด์ enorth ได้เขียนชื่นชมนักชกร่วมชาติว่า มีไหวพริบ เฉลียวฉลาด และใจเย็น จึงสามารถเอาชนะ แก้ว พงษ์ประยูร ไปได้ อีกทั้งซู ซิ หมิงยังบอกให้คนไทยเจ็บแค้นเล่นว่า
แม้ว่าแก้ว พงษ์ประยูร จะชกผิดกติกา เพื่อกดคะแนนของผม แต่ผมเชื่อว่ามีกฎอยู่ และกรรมการจะเป็นผู้ตัดสิน ผมจึงมีหน้าที่แค่ทำให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องสนใจการตัดสิน
แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ชาวไทยก็ต้องยอมรับกับผลการตัดสิน แม้ว่าจีน จะได้รับการขนานนามเป็นมหาอำนาจ ที่อาจมีอำนาจทางการเมือง ธุรกิจ มาแทรกแซงก็ตาม นี่เป็นปัจจัยหลักที่ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” มีอำนาจต่อรองในการดำเนินการต่างๆได้เป็นอย่างดี เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ที่มีศักยภาพในการเติบโตและพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และวิทยาศาสตร์ จนในปัจจุบันมีนักลงทุนและเงินทุน จากต่างชาติได้หลั่งไหลเข้าประเทศจีนเป็นจำนวนมหาศาล
เพราะหลังจากที่จบโอลิมปิกเพียงไม่นาน การประกวดมิสเวิร์ล นางงามโลก ที่จัดขึ้นที่อินเนอร์ มองโกเลีย ประเทศจีนนั้น สาวหยู เหวินเซียะ นักศึกษาวิชาการดนตรีวัย 23 ปี ตัวแทนสาวงามจีน ก็ยังคว้ามงกุฏในบ้านของตนเอง จนคนดูต่างถล่มค้านสายตา
บรรดาแฟนนางงามวิจารณ์กันว่า จูเลีย มอร์เลย์ ประธานและกรรมการบริหารกองประกวดไม่มีความโปร่งใส และไม่มีมาตรฐานในการจัดการประกวด เพราะสังเกตได้ว่า มิสเวิร์ล ที่เป็นสาวงามจากประเทศจีน ทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็น จาง จือลิน มิสเวิร์ลปี 2550 และหยู เหวินเซียะ ปีล่าสุด ต่างก็จัดประกวดในประเทศจีน จึงไม่พ้นข้อครหามอบมงกุฏให้เจ้าภาพ หวังผลประโยชน์อะไรหรือไม่
ทั้งนี้ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่ได้หมายความถึงจีนจะ มีนอกมีในกับการประกวด และการแข่งขันต่างๆ เพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เผยให้เห็นชัดเจน แต่สำหรับผลที่ออกมา ก็ทำให้จีน กลายเป็นที่น่าจับตา อดคิดไม่ได้ว่ามหาอำนาจของโลก ย่อมมีอำนาจต่อรองในหลายๆเรื่อง เพราะการที่จีนจะกลายเป็นชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกแทนสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 21นั้น บรรดาผู้แสวงหาผลประโยชน์ย่อมไม่รอช้า