2 โจรลวงสาวพริตตี้รับงานในโรงแรม จับมัดบังคับสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนเอาไปขังในห้องน้ำชิงทรัพย์สินและกุญแจรถยนต์หนี อ้างทำครั้งแรกหวังชิงทรัพย์แต่เห็นเหยื่อสวยจึงฉวยโอกาส
สว.สส.สน.ลุมพินี แถลงข่าวจับกุมตัวนายฐปนัช หรือ “ทัด” ปลูกทรัพย์ อายุ 25 ปี จ.พิจิตร และนายชาตสุเกติ์ หรือ "โอม" สุยะนันทน์ อายุ 32 ปี จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเชือกมัดกล่องไปรษณีย์ คัตเตอร์สีชมพู 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือโนเกีย 4 เครื่อง และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌป-3969 กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมพีบี ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท ว่ามีแขกของโรงแรมถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบ น.ส.กบ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้เสียหายอยู่ในสภาพถูกมัดมือ-มัดเท้า มีอาการหวาดผวาและได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้าและตามร่างกายหลายแห่ง จึงนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก
น.ส.กบ ให้การว่า ตนทำงานเป็นพริตตี้โชว์ตัวตามงานต่างๆ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปงานโชว์ตัวงานหนึ่งและได้รู้จักกับนายชาตสุเกติ์ ที่งานดังกล่าว โดยนายชาตสุเกติ์ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ เนื่องจากจะหางานให้ จนกระทั่งวานนี้(17 ก.ค.) นายชาตสุเกติ์ ก็ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า มีแขกผู้ใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จะให้ตนมาทำหน้าที่ต้อนรับและดูแลแขกโรงแรมดังกล่าว เมื่อมาถึงตนก็เริ่มเอะใจว่า เหตุใดต้องนัดที่ห้องในโรงแรมดังกล่าว และเมื่อเข้าไปภายในห้องหมายเลข 17 ที่นัดหมายก็พบนายฐปนัช นั่งรออยู่
“แต่แล้วจู่ๆ ทั้ง 2 คนก็จับฉันมัดมือ แล้วนายฐปนัช ก็บังคับให้ฉันช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนจะจับฉันมัดเท้าแล้วจับฉันไปขังไว้ในห้องน้ำ จากนั้นก็ขโมยเอาทรัพย์สินและกุญแจรถยนต์หนีไป ตนไม่รู้จะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร จนกระทั่งมีพนักงานเข้ามาทำความสะอาด เนื่องจากทั้ง 2 คนไปเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ฉันจึงขอให้พนักงานช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
หลังจากเกิดเหตุได้สอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและวิทยุให้สายตรวจสกัดจับรถของผู้เสียหาย จนกระทั่งไปพบรถคันดังกล่าวจอดติดไฟแดงอยู่ที่หน้าร้านคิวบาร์ มีนายฐปนัชเป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวมาสอบสวน ก่อนขยายผลจับกุมนายชาตสุเกติ์ ได้ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว
นายฐปนัช ให้การรับสารภาพว่า ตนและนายรู้จักกับผู้เสียหายที่งานอีเว้นท์งานหนึ่ง และเพิ่งจะก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะต้องการทรัพย์สิน แต่เห็นว่าผู้เสียหายรูปร่างหน้าตาดี จึงให้ช่วยสำเร็จความใคร่ให้ก่อนที่จะเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ส่วนรถยนต์ของผู้เสียหายก็คิดว่าจะเอาไปขายเพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ