อีโคคาร์โตโยต้า วืดรถคันแรก!! สรรพสามิตยันต้องผลิตขายปีนี้
สรรพสามิตดับฝัน "โตโยต้า" ส่งอีโคคาร์เข้าร่วมโครงการรถคันแรก อธิบดียันต้องเป็นรถที่ผลิตและจำหน่ายในปี"55 ปิดทางผู้ผลิตเอารถเปิดตัวปีหน้ามาเข้าโครงการ เปิดข้อมูลค่ายโตโยต้ามีเก๋งเข้าโครงการถึง 48 รุ่น ขณะที่ "อีซูซุ" ครองแชมป์รถเข้าโครงการมากสุด 120 รุ่น เผย "แจ๊ซ-ไฮบริด" และ "โซนิค" ได้รับสิทธิ์แล้ว
จากกรณีที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ขยายเวลาการส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถคันแรกออกไปแบบไม่มี กำหนด เพียงแต่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องจองซื้อภายใน 31 ธ.ค. 2555 ทั้งนี้มีกระแสข่าวระบุว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งมีแผนจะเปิดตัว
"อีโคคาร์" ในช่วงเดือนมีนาคม 2556 อาจปรับแผนโดยนำอีโคคาร์มาเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายปีนี้ พร้อมกับเปิดให้ประชาชนสั่งจองซื้อล่วงหน้าเพื่อขอรับสิทธิ์แต่ส่งมอบในปี 2556
นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากมติคณะรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติการขยายเวลาการส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถยนต์ คันแรกนั้น เนื่องจากเห็นว่าบริษัท
ผู้ผลิตอาจมีปัญหาส่งมอบรถไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ต้องไม่เอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการมากจนเกินไป เพียงแต่ช่วยเหลือให้ส่งมอบรถยนต์ได้ตามเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
อธิบดี กรมสรรพสามิตยืนยันว่า รถยนต์ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าโครงการรถคันแรกต้องผ่านเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน โครงการ โดยจะต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิต เสียภาษี
สรรพสามิตและเริ่มจำหน่ายในปี 2555 เท่านั้น ส่วนรถยนต์ที่ค่ายรถจะนำออกเปิดตัวในปีหน้า หากยังไม่ได้ผลิต เสียภาษี
สรรพ สามิตและเริ่มจำหน่ายในปีนี้ จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องหารือกับกรมสรรพสามิตเกี่ยวกับรายละเอียดของรถที่ จะนำเข้าโครงการดังกล่าวก่อนจึงจะได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการ
"รถ ที่จะเปิดตัวปีหน้าเข้าร่วมโครงการไม่ได้ เพราะเราบอกแล้วว่า ต้องเป็นรถที่จำหน่ายในปีนี้ คือเราให้เลื่อนส่งมอบ ไม่ใช่เลื่อนโครงการ และรถที่จะเข้าโครงการก็ต้องมาให้กรมดูก่อน ว่ามีการผลิตและเสียภาษี ณ โรงงานอุตสาหกรรมแล้วในปีนี้ ดังนั้นยืนยันว่า ไม่ได้เอื้อให้ผู้ประกอบการขนาดนั้นแน่นอน" นางเบญจากล่าวและว่า
หาก มีกรณีค่ายรถยนต์จะนำรถต้นแบบมาให้จองในปีนี้ หรือในงานมอเตอร์โชว์ช่วงปลายปีนี้ แต่หากไม่เข้าเงื่อนไขตามที่ระบุก็ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน
ทั้ง นี้ สำหรับเงื่อนไขรถยนต์คันแรกที่กำหนดไว้ตามมติ ครม.เดิมคือ 1.ต้องเป็นรถยนต์ใหม่คันแรกที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2555 2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน 3.เป็นรถยนต์นั่งขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ซีซี หรือรถยนต์กระบะ (ปิกอัพ) หรือรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) 4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมสรรพสามิตรายงานล่าสุด ณ วันที่ 6 ส.ค. 2555 เปิดเผยถึงจำนวนยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก พบว่าสำหรับรถยนต์นั่งมีทั้งหมด 9 ยี่ห้อ รวม 161 รุ่น มากที่สุดคือยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 48 รุ่น รองลงมายี่ห้อ มาสด้ามี 36 รุ่น ยี่ห้อฮอนด้ามี 20 รุ่น (รวมแจ๊ซ-ไฮบริด) ยี่ห้อเชฟโรเลต 19 รุ่น (รวมโซนิค) ยี่ห้อนิสสัน 14 รุ่น ยี่ห้อมิตซูบิชิ 10 รุ่น ยี่ห้อฟอร์ด 7 รุ่น ยี่ห้อเกีย 5 รุ่น และยี่ห้อซูซูกิ 3 รุ่น
ส่วนรถกระบะปิกอัพ มีทั้งสิ้น 8 ยี่ห้อ รวม 248 รุ่น มากที่สุดเป็นยี่ห้ออีซูซุมี 64 รุ่น รองลงมาคือโตโยต้า 43 รุ่น ยี่ห้อเชฟโรเลต 37 รุ่น ยี่ห้อมิตซูบิชิ 28 รุ่น ยี่ห้อนิสสัน 22 รุ่น ยี่ห้อมาสด้า 20 รุ่น ยี่ห้อฟอร์ด 19 รุ่น และยี่ห้อทาทา 15 รุ่น
ขณะที่ในส่วนของรถกระบะดับเบิลแค็บมี 8 ยี่ห้อ รวม 210 รุ่น มากที่สุดคือยี่ห้ออีซูซุมี 56 รุ่น รองลงมายี่ห้อโตโยต้า 47 รุ่น ยี่ห้อเชฟโรเลต 29 รุ่น ยี่ห้อมิตซูบิชิ 24 รุ่น ยี่ห้อนิสสัน 20 รุ่น ยี่ห้อฟอร์ด 16 รุ่น ยี่ห้อมาสด้า 14 รุ่น และยี่ห้อทาทา 4 รุ่น
โดยกรมสรรพสามิตอ้างถึงผลการสำรวจข้อมูลเบื้อง ต้นจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ คาดว่าในปีนี้จะมียอดสั่งจองรถยนต์ที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์รถยนต์ใหม่คันแรก ประมาณ 425,000 คัน สำหรับยอดขอใช้สิทธิ์คืนภาษีรถคันแรก ณ วันที่ 23 ก.ค.อยู่ที่ประมาณ 1.1 แสนคัน คิดเป็นเงินกว่า 8 พันล้านบาท
แหล่ง ข่าวจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความชัดเจนของนโยบายรถยนต์คันแรกว่า ขณะนี้โตโยต้ารวมทั้งค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ยังต้องรอศึกษารายละเอียดและข้อกำหนดอื่น ๆ โดยเฉพาะเงื่อนไขระยะเวลาการส่งมอบและรถยนต์ที่เข้าข่ายร่วมโครงการ
ส่วน ประเด็นที่หลายฝ่ายต่างเป็นกังวลและคาดการณ์ล่วงหน้าว่า โตโยต้าจะตัดสินใจนำอีโคคาร์ หรือรถต้นแบบของอีโคคาร์มานำเสนอก่อนแผนงานเดิมที่จะแนะนำออกสู่ตลาดราวไตร มาสที่ 1-2 ของปี 2556
บริษัทขอยืนยันว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามนโยบายเดิม พร้อมทั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายเคียวอิจิ ทานาดะ ก็ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า โครงการอีโคคาร์ของโตโยต้านั้นเดินหน้าไปตามเเผนงานที่วางไว้เดิม และไม่มีทางที่บริษัทจะเลื่อนระยะเวลาให้เร็วขึ้นเพื่อดึงตลาดในกลุ่มลูกค้า ที่ซื้อรถยนต์คันแรกแน่นอน
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากแวดวง อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ประเมินสถานการณ์ของตลาดรถยนต์คันแรกที่คาดว่าจะเกิด ขึ้นในปีนี้ว่า กลุ่มค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่นั้นยังมีปัญหาด้านกำลังการผลิต เพราะตอนนี้ใช้กันอย่างเต็มที่แล้ว ไม่สามารถเร่งหรือเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเเผนเดิมที่เตรียมในปีนี้
ดัง นั้นให้จับตากลุ่มค่ายรถยนต์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่วันนี้กำลังการผลิตยังพอ มีเหลือ อาจจะเร่งเครื่องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อผลิตรถออกมาตอบสนองความต้องการ ลูกค้า โดยเฉพาะเพื่อใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรก