วอนช่วยเด็กจิ๋วเมืองคอน อายุ 5 ขวบ สูง 67 ซม.

          พบเด็กวัย 5 ขวบ สูงเพียง 67 เซนติเมตร ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แพทย์ชี้ป่วยโรคต่อมไร้ท่อไทรอยด์ และไม่มีฮอร์โมนสร้างความเจริญเติบโตให้กับร่างกาย หากฉีดฮอร์โมนเร่งโตจะช่วยได้ แต่ครอบครัวฐานะยากจน จึงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
 
          เมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบครอบครัวของ ด.ช.เจษฏา แคล้วอ้อม หรือ น้องติ่ง อายุ 5 ขวบ ลูกชายของนายสมพงศ์-นางพรสวัสดิ์ แคล้วอ้อม อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 5 บ้านนาป่า ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีอาการผิดปกติทางร่างกาย โดยตัวเล็กกว่าเด็กปกติ มีน้ำหนักเพียง 8.5 กิโลกรัม และมีความสูงแค่ 67 เซนติเมตร ทั้งที่ตามเกณฑ์เฉลี่ยเด็กชายไทย อายุ 5 ขวบ จะมีน้ำหนัก 15-22.6 กิโลกรัม ส่วนสูง 102.0-115.1 เซนติเมตร แต่น้องติ่งกลับตัวเล็กกว่ามาตรฐาน รวมถึงอวัยวะเพศก็มีขนาดเล็ก จนทำให้มีความบกพร่องในระบบขับถ่าย ซึ่งต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์สวนทวารเพื่อให้ถ่ายอุจจาระ 4 วัน/ครั้ง รวมถึงมีภาวะช็อกหมดสติต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นประจำ ขณะที่พัฒนาการอื่น ๆ เช่น การกิน การพูดจา และความคิดอ่าน เหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป
 

          และจากการเข้าตรวจสอบบ้านของครอบครัวดังกล่าว พบว่า บ้านยังสร้างไม่เสร็จ มีเพียงประตูด้านหน้า ส่วนหน้าต่างเอาเศษไม้และวัสดุอื่น ๆ มาปิดทับไว้ โดยนางพรสวัสดิ์ ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนมีบุตร 4 คน น้องติ่ง เป็นบุตรคนสุดท้อง ซึ่งในช่วงตั้งครรภ์นั้น น้องติ่งเป็นปกติทุกอย่าง ก่อนจะเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 มีน้ำหนักแรกคลอด 3.6 กิโลกรัม แต่หลังจากอายุได้ 1 เดือนครึ่ง น้องติ่งก็เกิดภาวะช็อกหมดสติ  ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลมหาราช และนอนพักรักษาตัวอยู่หลายเดือน
 
          นางพรสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า แพทย์ระบุว่าน้องติ่งเป็นโรคต่อมไร้ท่อไทรอยด์ และไม่มีฮอร์โมนในการสร้างความเจริญเติบโตให้กับร่างกาย หลังจากนั้นเมื่อกลับมาอยู่บ้าน น้องติ่งมักจะเกิดภาวะช็อกหมดสติต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ซึ่งแพทย์แจ้งว่า การฉีดฮอร์โมนเสริมเข้าไปในร่างกาย จะช่วยให้น้องติ่งเจริญเติบโตขึ้น แม้จะไม่เท่าเด็กปกติก็ตาม และหากทางตนพร้อม ทางโรงพยาบาลมหาราชก็จะส่งน้องติ่งไปรักษาและฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ แต่จะต้องฉีดยาอย่างต่อเนื่อง
 
          นางพรสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ตนสงสารน้องติ่งมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่มีเงินค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งสามีก็ทำงานรับจ้างหาเงินเพียงคนเดียว รายได้ในแต่ละเดือนแทบจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จึงอยากจะวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใจบุญ ช่วยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้ตนสามารถนำน้องติ่งไปเข้ารับการรักษา และฉีดฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายได้เจริญเติบโตกว่านี้ เพราะหากไม่ได้รับการฉีดฮอร์โมนตั้งแต่ตอนนี้ แม้อายุจะมากขึ้นกี่ปี แต่ร่างกายน้องติ่งก็จะมีขนาดเล็กเท่าเดิมตลอดไป