เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝน จึงทำให้หลายคนต้องฝ่าสายฝนเดินทางออกไปทำงานกันทุกวี่ทุกวัน ซึ่งสร้างความรำคาญให้คุณอยู่มิใช่น้อย แน่นอนว่าต้องมีบ้างที่ไม่ได้เตรียมตัวเผชิญหน้ากับฝนจนเนื้อตัวเปียกปอน ลำพังแค่เสื้อผ้าเปียกก็ยังพอซักและใช้เวลาตากให้แห้งได้ไม่นาน แต่ถ้าเป็นรองเท้าที่คุณใส่เปียกนี่สิแย่แน่ ยิ่งถ้าทนฝืนใส่ติดต่อกันทุกวันก็จะสร้างความอับชื้น และกลิ่นเหม็นให้กับรองเท้าได้เป็นอย่างมาก แล้วเราควรทำยังไงดีเพื่อช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรองเท้ากันดีหนอ เรามีคำแนะนำเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าได้ดังต่อไปนี้
ตากในที่อากาศถ่ายเทดี
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบราคาถูกหรือรองเท้าหนังราคาแพง แต่ถ้ารองเท้าคุณอับชื้นอยู่แล้วยังทนใส่ต่อไปเพราะเป็นคู่โปรดคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เพราะรองเท้าที่อับชื้นมักเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียที่นอกจากจะทำให้รองเท้ามีกลิ่นเหม็นแล้ว ยังส่งผลต่อกลิ่นเหม็นของเท้าคุณได้ด้วย ถ้าเป็นไปได้ให้นำรองเท้าของคุณไปตากแดดหรือวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกบ้างนะ เมื่อรองเท้าได้รับลมรับแดดจากธรรมชาติจะสามารถช่วยลดความอับชื้น และลดกลิ่นเหม็นได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
ใช้เบกกิ้งโซดา
โรยเบกกิ้งโซดาในรองเท้าแล้วปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลาหนึ่งคืนก็สามารถช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากรองเท้าของคุณได้ อย่างไรก็ดีไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดากับรองเท้าหนัง เพราะอาจทำให้หนังรองเท้าเสียหาย ถ้าเกิดว่าตอนนี้คุณหาเบกกิ้งโซดามาใช้ไม่ได้ คุณสามารถเลือกใช้เกลือที่ดูดซับความชื้นและดับกลิ่นมาทดแทนได้เช่นกัน
นำกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่รองเท้า
เมื่อรองเท้าอับชื้น วิธีแก้ไขที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เข้าช่วย เพียงคุณใช้กระดาษหนังสือพิมพ์มาปั้นเป็นก้อนแล้วนำมายัดเข้าไปข้างใน รองเท้า จากนั้นก็ทิ้งไว้หนึ่งคืน เพราะกระดาษหนังสือพิมพ์สามารถช่วยดูดความชื้นในรองเท้ารวมทั้งช่วยดับกลิ่น ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยรักษารูปทรงรองเท้าไปในตัวอีกต่างหาก
ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค
ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ สามารถขจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นได้อย่างชะงัก โดยส่วนผสมของสเปรย์จะช่วยลดจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่เกิดจากสิ่งสกปรกได้อย่างดี เพียงแค่ฉีดสเปรย์เข้าไปแล้วรอซักประมาณ 10 นาที เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความอับชื้นและกลิ่นเหม็นได้เป็นอย่างดี
จากข้อแนะนำที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรองเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงเท่านี้คุณก็ใส่รองเท้าคู่เก่งได้เหมือนเดิม โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นอีกต่อไป ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือคุณควรสลับรองเท้าคู่อื่นไว้ใส่ใช้งานบ้าง จะได้ไม่ต้องใช้งานรองเท้าคู่ใดคู่หนึ่งหนักจนเกินไป ยังไงก็ดูแลหน่อยนะเพื่อถนอมรองเท้าให้ใช้ได้อย่างยาวนาน รวมถึงเพื่อสุขภาพเท้าที่ดีของคุณด้วย