เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.เตชวัตร ทองทวี สารวัตรเวร สน.ดอนเมือง รับแจ้งเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้ายแก๊งค้ายาเสพติด บริเวณหน้าฐานทัพอากาศดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ
ที่เกิดเหตุบริเวณสนามหญ้าหน้าประตูฐานทัพอากาศดอนเมือง พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ลษ-9447 กทม. สภาพเสยพุ่งชนสนามหญ้าข้างทาง กระจกหลังแตกละเอียด ยางล้อหน้าและหลังด้านขวาถูกยิงจนแตก ภายในรถพบศพนายพล ชัยยะพันโท ชาวลาว สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว ถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา และถูกยิงเข้าที่สีข้างซ้าย เสียชีวิตคาที่นั่งด้านข้างคนขับ ใกล้กันพบอาวุธปืนกลขนาด .45 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมกระเป๋าเดินทางสีฟ้า 2 ใบ ภายในมียาบ้ารวมกัน 200,000 เม็ด และมีระเบิดลูกซ้อมวางอยู่อีก 1 ลูก นอกจากนี้ ยังพบบัตรประจำตัวตำรวจ บช.ภ.2 ตกภายในรถด้วย
นอกจากนี้ ยังมีคนร้าย 3 คน ทราบชื่อนายประสม สุทธิชนโสภากุล อายุ 37 ปี นายจักรณรงค์ พลไชย อายุ 34 ปี และนายโชคชัย ตั้วมาก อายุ 24 ปี วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้าข้างฐานทัพอากาศ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. หน่วยอรินทราช 26 สน.ดอนเมือง สภ.คูคต สภ.คลองหลวง กว่า 300 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ตำรวจมาบินปิดล้อมกดดันให้คนร้ายยอมมอบตัว
พ.ต.อ.ธนะรัชน์ ชุมสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.ภ.5 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ บช.ภ.5 สืบทราบว่าจะมีการนัดส่งยาเสพติดกันในพื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยเป็นแก๊งจากภาคเหนือ เจ้าหน้าที่จึงติดตามสะกดรอยมาตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งรับแจ้งว่ามีการนัดส่งยาบ้ากันบริเวณลานจอดรถตลาดไท ใกล้องค์พระ ริมถ.พหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดักซุ่ม กระทั่งมีรถกระบะต้องสงสัยขับเข้ามาจอด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่คนร้ายเกิดไหวตัวทันและพยายามขับรถพุ่งชน อีกทั้งยังใช้อาวุธปืนกลกระหน่ำยิงเจ้าหน้าที่ ก่อนฝ่าวงล้อมออกมาจากตลาดไท ซึ่งระหว่างติดตามมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ คนร้ายได้เปิดกระจกและขว้างระเบิดใส่รถเจ้าหน้าที่ แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงาน
พ.ต.อ.ธนะรัชน์กล่าวอีกว่า จากนั้นคนร้ายขับรถมาทางถนนวิภาวดีฯเส้นคู่ขนานมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขับรถไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด จนถึงหน้าฐานทัพอากาศดอนเมือง ซึ่งมีการจราจรติดขัด คนร้ายจึงหักรถย้อนศรตรงสะพานกลับรถ เพื่อหวังขับเข้าฐานทัพอากาศดอนเมือง แต่ฐานทัพอากาศเกิดปิดปรับปรุงถนน คนร้ายจึงขับรถพุ่งขึ้นฟุตปาธ จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นชุด โดยเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไล่ล่ามาได้ยิงสวนกลับไป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยิงปะทะกันอยู่นาน ก่อนคนร้ายที่อยู่ในรถ 3 คน จะวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างฐานทัพอากาศ
ด้านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ภ.5 ติดตามความเคลื่อนไหวของแก๊งค้ายาเสพติดกลุ่มนี้มานาน ซึ่งเป็นแก๊งค้ารายใหญ่ในภาคเหนือ โดยรับยามาจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำมาส่งในกทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมาเป็นเวลา 1 เดือน จนทราบว่าจะนำยาบ้า 2 แสนเม็ดมาส่งลูกค้าให้พื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยนัดหมายกันที่บริเวณตลาดไท กระทั่งเกิดเหตุประทะดังกล่าว
ต่อมาเวลา 19.50 น. นายโชคชัย หนึ่งในคนร้ายได้เดินออกมาจากป่าหญ้าและเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ หลังถูกปิดล้อมกดดันอยู่นาน ก่อนเจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบสวนที่ บช.ปส. โดยนายโชคชัยให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทางมารับยาบ้าจากเอเยนต์ที่นัดไว้บริเวณตลาดไท เพื่อไปส่งให้ลูกค้าย่านพัทยา จ.ชลบุรี แต่มาถูกตำรวจตามจับกุม จึงกระโดดขึ้นรถมาด้วยกันกับเอเยนต์ โดยการขนยาได้ค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาท ที่ผ่านมาเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกตำรวจตามจับกุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมตามจับกุมนายประสมและนายจักรณรงค์ คนร้ายที่ยังหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในป่าข้างฐานทัพอากาศ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์บินส่องไฟกดดันพื้นที่โดยรอบ แต่ยังไร้วี่แวว