ทลายแหล่งผลิตยาบ้าในกรุง แก๊งคนร้ายเช่าบ้านหรูให้ลูกน้องสาวปั๊มสูตรพิสดาร มีส่วนผสมของยากันยุงและปูนยาแนว ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกาย พบหัวหน้าแก๊งอยู่ในคุกฉะเชิงเทรา เร่งสอบสวนขยายผล

            วานนี้ (6 สิงหาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์, พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2, พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม สน.บางซื่อ แถลงจับกุมตัวผู้ต้องหาลักลอบผลิตยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมของกลางหลายรายการ

            พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ตามนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ได้มีการสั่งการลงไปยัง สน.ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจและสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 70/140 หมู่ 12 หมู่บ้านกฤษดานคร ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 19 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ มีการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาบ้า จึงได้ขอให้ศาลอนุมัติหมายค้นบ้านดังกล่าว

            ต่อมาเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้น พบ น.ส.เยาวเรศ หรือหวาน ยะนิล อายุ 25 ปี นายทิวา หรือบอล พลับวังกล่ำ อายุ 21 ปี ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 9 ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ และนายศิหนนท์ หรือไนท์ คะเลรัมย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 3 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อม ของกลางเป็นเครื่องปั๊มผลิตยาเม็ด 1 เครื่อง หัวปั๊มโลหะที่มีสัญลักษณ์ WY 24 หัว ยาบ้าชนิดเม็ดสีเขียวและฟ้าอ่อน 729 เม็ด ผงยาบ้า 2 ถุง ยาไอซ์ 30 กรัม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สารเคมีและอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตยาบ้า

            สอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า พวกตนมีหน้าที่เฝ้าบ้าน ซึ่งมีนายแบงค์เป็นผู้เช่า โดย น.ส.หวานมีหน้าที่เฝ้าแท่นปั๊มยา ตลอดจนทำหน้าที่ผสมยา ส่วนนายบอลมีหน้าที่เฝ้าของกลางให้นายแบงค์ และเป็นต้นทางคอยดูเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่นายไนท์ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกระทำผิดด้วย เพียงแค่รู้เห็นเท่านั้น เพราะเป็นแฟน น.ส.หวาน

            เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป

            พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเรียนรู้ขั้นตอนวิธีการผสมยาเสพติดมาจากขบวนการค้ายาเสพติดเก่า โดยกลุ่มนี้จะเปลี่ยนสถานที่ผลิตไปเรื่อย ๆ ซึ่งขณะจับกุมยังเหลือสัญญาเช่าบ้านเพียง 1 วันเท่านั้น ขณะที่ส่วนผสมของการผลิตยานั้นมีการใส่ปูนยาแนวกระเบื้อง ยากันยุง รวมถึงสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายลงไปด้วย

            "การจับ กุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจากเรือนจำ โดยชุดสืบสวนจู่โจมปราบปรามยาเสพติด สน.บางซื่อ ออกสืบสวนหาข่าวจนทราบแน่ชัดว่า แท่นปั๊มในเครือข่ายผู้ต้องขังที่ติดคุกในเรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในเขต สน.ธรรมศาลา จึงขอหมายค้นเข้าจับกุมในที่สุด" พ.ต.อ.พีระพงศ์ กล่าว และว่า ความจริงของกลางที่ตรวจยึดได้ในบ้านที่เกิดเหตุมีจำนวนมากกว่าที่นำมาแถลง ข่าว เท่าที่เห็นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยขณะเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ซึ่งจะต้องสืบสวนขยายผลต่อไปยังเครือข่ายทั้งนอกและในเรือนจำต่อไป

            สำหรับ น.ส.เยาวเรศ คนผสมบูตรยาบ้า พ.ต.อ.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า น.ส.เยาวเรศ เคยอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้ มีความชำนาญในการผสมยาบ้า ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากลูกพี่ว่าต้องผสมอย่างไร และใส่อะไรลงไปบ้าง ใช้วิธีการแบบลูกทุ่งธรรมดา ๆ ไม่ได้จบด้านเคมีมาแต่อย่างใด ที่เห็นอุปกรณ์มีครกและสากนั้น ใช้สำหรับตำส่วนผสมที่เป็นก้อนให้ละเอียดเป็นผงแล้วนำมาอัดเป็นเม็ด