ชาวบ้านอำ เภอสีคิ้วโค ราชยังหวาดผวาพบเงาลึก ลับคล้ายลิงบุกเข้าเขย่าดึงประตูบ้านหญิงสาวยามวิกาลอีก เชื่อเป็นสิ่งลี้ลับไม่น่าจะเป็นกระหังมนุษย์ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ เพราะยังถูกขังอยู่ในเรือนจำ แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะจัดเวรยามดูแลแต่ก็ไม่เคยติดตามจับตัวได้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเบาะแสยังไม่ชัด อีกทั้งไม่เคยมีใครพบตัวจริงจัง แต่ก็จัดกำลังตำรวจออกตรวจตราเพื่อให้ชาวบ้านได้อุ่นใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านลาดบัวขาว หมู่ 2 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เคยเกิดข่าวลือผีกระหังออกอาละวาด บุกเข้าไปทำอนาจารหญิงสาวถึงภายในบ้านบ่อยครั้ง กลายเป็นข่าวดังมาแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ ไม่ใช่กระหังอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ จนจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ คือนายเดิม เชียงแสน อายุ 30 ปี สมาชิกอาสาสมัครกู้ภัยในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำสีคิ้วอยู่ขณะนี้

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวแม้ดูเหมือนว่าจะได้ข้อยุติลงแล้ว แต่ปรากฏว่าชาวบ้านหมู่บ้านลาดบัวขาวส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้จะเป็นผู้ที่ก่อเหตุบุกเข้าไปลวนลามหญิงสาวภายในหมู่บ้านเพียงคนเดียวเนื่องจากยังคงมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง แม้ว่าผู้ต้องหาจะยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำก็ตาม ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ คล้ายมีคนเข้ามาถึงประตูบ้านของหญิงสาวภายในหมู่บ้าน ในช่วงเวลาประมาณ 01.00-03.00 น. อีกหลายครั้ง เหตุการณ์นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่คืนวันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นมา

ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันขึ้นอีก คือมีเงาดำเคลื่อนที่ว่องไวพยายามบุกเข้าไปในห้องหญิงสาว แต่เวรยามที่จัดไว้ลาดตระเวนภายในหมู่บ้านก็ไม่สามารถจับตัวเงาดังกล่าวได้ จึงทำให้ชาวบ้านยังหวาดผวาว่าหญิงสาวในหมู่บ้านจะได้รับอันตรายจากตัวประหลาดดังกล่าว ส่งผลให้ผู้นำชุมชนยังคงต้องขอแรงจากชายฉกรรจ์ภายในหมู่บ้าน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน อีกทั้งชาวบ้านเองต่างก็พากันซ่อมแซมหน้าต่าง และประตูบ้าน รวมถึงปิดช่องทางทุกช่องทางของตัวบ้านอย่างแน่นหนา เพื่อไม่ให้บุคคลหรือสิ่งใดเข้าไปภายในบ้านได้ นอกจากนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าเงาดำที่พบเห็นนั้นไม่น่าจะใช่มนุษย์ธรรมดา แต่อาจจะเป็นคนที่มีวิชาอาคม จึงนำแผ่นยันต์รวมถึงแผ่นทองเหลืองที่ผ่านการปลุกเสกมาติดไว้หน้าประตูบ้าน เพื่อป้องกันเงาร่างลึกลับดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย

นางวิลัยภรณ์ อ้นพิมพ์ อายุ 22 ปี หนึ่งในหญิงสาวของหมู่บ้านดังกล่าว กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนในหมู่บ้านโดยเฉพาะหญิงสาวต่างอยู่ในความหวาดผวาอย่างมาก เนื่องจากยังมีสิ่งลี้ลับเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงกลางดึกแทบทุกคืน จะมีเสียงคล้ายมีคนมาดึงประตูบ้าน เพื่อพยายามหาทางเข้าไปในบ้าน ทั้งๆ ที่หน้าบ้านมีเวรยามเฝ้าอยู่ตลอดทั้งคืน และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นก็จะมีคนพบเงาดำลึกลับปรากฏตัวขึ้นและหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทุกครั้งโดยที่ไม่เคยจับตัวได้เลย แม้จะมีชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านหลายคนช่วยกันติดตามไล่จับตัวก็ตาม จึงทำให้แทบทุกคนในหมู่บ้านเชื่อว่าเงาดำ หรือเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าและมีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ ไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน และยังไม่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของสิ่งลี้ลับดังกล่าวนี้คืออะไร

นางสุภาพร คล้อยจันทึก อายุ 42 ปี ชาวบ้านภายในหมู่บ้านเดียวกัน กล่าวว่า ผู้ที่ก่อเหตุไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน เพราะจากคำบอกเล่าและเหตุการณ์ที่ตนและครอบครัวประสบมาทุกครั้งที่เกิดเหตุจะพบเงาตะคุ่มๆ คล้ายลิงตัวใหญ่ปรากฏกายขึ้นทุกครั้ง และถึงแม้จะมีหลายคนพบเห็นแต่ก็ไม่เคยที่จะจับตัวได้สักครั้ง เพราะเงาดำนั้นมีความว่องไวและกระโดดสูงเหนือกว่าลิงหรือคนทั่วไปที่จะทำได้ และทุกครั้งก็ไม่มีการทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องพึ่งใคร เพราะเชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่ใช่มนุษย์ไม่มีทางที่จะจับตัวได้ ก็ทำได้เพียงสรรหาเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นยันต์กันภูตผี หรือวิธีการป้องกันตัวจากสิ่งลี้ลับมาติดไว้หน้าบ้าน เพื่อให้เป็นที่พึ่งทางใจให้พอได้หลับนอนบ้างเท่านั้น

ขณะที่ พ.ต.ท.เฉลิมพล สมัยจารุวัฒน์ สวป.สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากฝีมือใคร เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่พบร่องรอยการก่อเหตุแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่มีใครได้รับอันตราย หรือพบเห็นผู้ก่อเหตุที่พอยืนยันได้แม้แต่รายเดียว มีเพียงคำบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของชาวบ้านก็ยังคงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาตระเวนตรวจตรา รักษาความปลอดภัยโดยรอบหมู่บ้านร่วมกับเวรยามของหมู่บ้านเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุขึ้นอยู่แล้วและยืนยันว่าจะพยายามสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อคลายความวิตกกังวลของชาวบ้านให้ได้เร็วที่สุด