นับเป็นนักกีฬาไทยอีกหนึ่งคน ที่ฟันฝ่าอุปสรรคสารพัด ได้อย่างชนิดที่ต้องนับถือในความเด็ดเดี่ยวและใจสู้ ควรค่ายิ่งแก่การให้กำลังใจมากๆ สำหรับ หนุ่มน้อยชาวจังหวัดเชียงใหม่ ตีโต้ - ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา นักกีฬากระโดดไกลทีมชาติไทย เพียงหนึ่งเดียว ของคนไทย ในการแข่งขันกีฬา โอลิมปิกเกมส์ 2012 "ลอนดอนเกมส์" ซึ่งแม้ หนุ่มน้อย วัย 20 ปี ผู้นี้ จะพลาด โอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญรางวัลในการแข่งขันกระโดดไกล ไม่ติดชื่อเป็น 12 คนสุดท้ายที่ได้ลุ้นเหรียญวันสุดท้าย ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม เมื่อเวลาประมาณ 01.45 น. วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา (ตามเวลาในประเทสไทย) หลังทำระยะกระโดดไกลได้ 7.38 เมตร ในรอบคัดเลือก

 

 

แต่นั่นก็ทำให้คนไทยที่ได้รับทราบข่าวคราวของเขา ยิ่งอยากจะปลอบใจเข้าไปอีก เมื่อทราบว่า ตีโต้ นักกระโดดไกลทีมชาติไทย เจ้าของความสูง 185 ซม. เดินทางไปแข่งที่ลอนดอนเพียงคนเดียว หนำซ้ำยังต้องไปตามหาโค้ชที่ถูกปล่อยทิ้งไว้เพียงลำพังกลางกรุงลอนดอน ในตอนแรกอีก

 

เรื่องราวของนักกระโดดไกลเพียงคนเดียวของไทย กับการไปแข่งขันขันโอลิมปิกที่ ลอนดอน ได้รับการเปิดเผย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผ่านทางเฟซบุ๊กในชื่อ "TiTo′FC" ซึ่งเป็นหน้าเพจแฟนคลับของตีโต้ โดยมีการโพสต์ข้อความ ที่มีการตำหนิไปยัง ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ที่ปล่อยให้ตีโต้เดินทางไปคนเดียว โดยไม่ส่งโค้ชผู้ฝึกซ้อมไปเป็นเพื่อน รวมถึงเมื่อส่งโค้ชไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้วก็กลับปล่อยให้โค้ชเผชิญชะตากรรมอยู่คนเดียวที่ห้างสรรพสินค้า โดยค้ชไม่มีซิมโทรศัพท์ ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ จึงติดต่อกับตีโต้ไม่ได้ เมื่อตีโต้ทราบข่าว จึงเดินทางไปตามหาโค้ช และเมื่อทั้งคู่เจอกันก็ไม่สามารถเข้าพักโรงแรมได้ หนำซ้ำยังมีปัยหาเรื่องไอดีการ์ด พร้อมกับฝากให้มีการช่วยกระจายข่าวดังกล่าวด้วย โดยข้อควาทที่มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก มีดังนี้

 

"ท่าน ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครับ ลูกน้องท่านทำอย่างี้ได้ไง รับโคช ตี้โต้จากสนามบิน แล้วเอาไปปล่อยทิ้งไว้คนเดียว ที่ห้างสรรพสินค้า(ยังกับหมูกับ​หมา) โดยที่โคช ไม่มีซิมโทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อใครได้ โคชไม่เคยไปอังกฤษ ไม่รู้จักใคร ข้าวไม่ได้กิน ตั้งแต่เช้า จน ตีโต้ ทราบข่าว จึงออกไปตามหาโคช จึงได้โทร. หาลูกน้องท่าน ก็รับปากว่าจะมารับ ตอน 5 โมงเย็น รอจนแล้วจนเล่า ก็ไม่มีใครมารับ โทร. หาอีก ที แจ้งว่า ไม่มีใครไปรับ ให้กลับ โรงแรมฯ เอง ปัดโถ้ ... แล้วโคช จะกลับ โรงแรมฯ ได้ยังไง ชื่อ โรงแรมฯ ก็ไม่รู้จัก โทร.สอบถามจึงรู้จักชื่อ โรงแรมฯ ตีโต้กับ โคช ต้องหาซื้อข้าวกินเอง(แพง ฉิบ) ต้องนั่ง Taxi ไป โรงแรมฯ เสียเงินค่า Taxi ไป สองพันกว่าบาท ซ้ำไปถึง โรงแรมฯ เข้าห้องพักก็ไม่ได้ เพราะไม่มี (...) เจ้าหน้าที่ กกท. อยู่ที่นั้นอีก เฮ้อ... รอแล้วรอเล่า กว่าจะได้เข้าที่พัก ก็ดึกดื่นแล้ว มิหนำซ้ำ โคชตีโต้ ขอความกรุณา ให้เจ้าหน้าที่ กกท. ช่วยไปส่งทำบัตร(id) ที่สนามแข่ง ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ลูกน้องท่านตอบว่าไงครับ ท่านรู้ไหม ลูกน้องท่านบอกว่า ไม่มีรถไปส่ง อยากไปก็ไปเอง นั่งรถไฟฟ้า ไป โถ โถ โถ (...นั่น) คนไม่เคยไป London มันจะไปยังไงถูกครับ สถานีรถ อยู่ที่ไหน ขึ้นยังไง ขึ้นไปแล้ว ...จะไปลงที่ไหน(วะ) แล้ว ... จะกลับอย่างไร สรุปแล้ว ลูกน้องท่านทำยังงี้ได้ไง พี่ๆ นักข่าว หรือแฟนๆ TiTo′FC ถ้าได้อ่านข้อความนี้แล้ว ขอได้โปรด เรียนท่าน ผอ.กกท. หน่อยเถอะ หรือช่วยกระจ่ายข่าวให้ชาวไทย ได้รู้ และรับทราบ พฤติกรรม ของลูกน้องท่าน ผอ.กกท.ด้วยเถอะ"

 

ซึ่งเมื่อตีโต้โพสต์ลงเฟซบุ๊กไปก็มีคนแชร์ข้อความดังกล่าวไปพอสมควร ทำให้มีหลายสื่อช่วยกระจายข่าวจนทราบเรื่อง

 

จากนั้น ได้มีข้อความโพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากทางครอบครัวของตีโต้เอง ระบุว่า "ปัญหาทุกอย่าง พ่อ และแม่ จะเครียร์ให้ในเช้าวันนี้ โต้ และ พี่สังข์ ต้องยืนอยู่บนเท้า บนแข้ง บนขา ของโต้และพี่สังข์เอง อะไรที่จำเป็นต้องเสีย ก็ต้องเสีย ในภาวะและสถานะการณ์ขณะนี้ อย่าไปหวังพึ่งสมาคมฯ หรือ เจ้าหน้าที่ กกท. จงเอาสิ่งที่เลวร้ายที่มันทำกับลูกและพี่สั่งข์ ในวันนี้ ให้กลายเป็นพลังให้ ลูกและพี่สังข์ ต่อสู้ฟันฝ่า จนประสบความสำเร็จ"

 

 

 

 

ก่อนแข่ง ตีโต้ได้มาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นเดิมว่า "คำพูดสุดท้ายก่อน ประทับรอยเท้าในบ่อทราย ในโอลิมปิค ลอนดอน:) It is not in some day, but it must be today. ทิ้งไว้แค่คำสั้นๆ ผมไปสนามแล้วนะครัฟ ขอบคุณทุกๆกำลังใจครัฟ ผมจะตั้งใจทำให้เต็มที่"

 

ข้อความล่าสุด ในเพจ "TiTo′FC" ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นแฟนเพจ ที่ทำหน้าที่แอดมิน ได้โพสต์ข้อความให้กำลังใจ ภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันกระโดดไกล แม้จะไม่ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุด ท้าย ก็ตาม ดังนี้

" ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกแรงเชียร์ที่ส่งมาเชียร์ ตีโต้ :) นักกรีฑากระโดดไกลทีมชาติไทย คนแรก ที่ได้มาถึงโอลิมปิค เป็นนักกีฬาที่เค้าคิดว่าไม่มีคว​ามหวัง โดดเดี่ยว มาหลายวัน แถมต้องมาล้า 2 วันก่อนแข่งที่ต้องยืนรอหาโค้ชใ​นห้างฯ วิ่งไปประชุมรับเบอร์ ประสานงานให้โค้ชได้เข้าในสนาม แล้วก็รออยู่เป็นเพื่อนโค้ช ดูแลและอยู่หาข้าวทานกับโค้ช กลับที่พักจนค่ำมืด มันเป็นหน้าที่ของนักกีฬาหรือว่​าหน้าที่ใครกัน ทำได้แค่นี้ก็ น่าจะภูมิใจแล้ว นายตีโต้ เอ้ย ถือว่านายสุดยอดละ"

 

 

ขณะที่ ในหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ตีโต้ ในชื่อ Supanara Sukhasvasti Na Ayudhaya ได้ขึ้นข้อความว่า

 

 

"ขอบ คุณ ครัฟ ทุกๆ คน ที่เป็นกำลังใจให้ผม ถึงวันนี้ผมจะทำได้ไม่ดีแต่ผมบอกได้เต็มอกว่าผมก็ทำเต็มที่แล้วว ผม ตั้งใจทำทุกครั้งที่รับใช้ธงไทย อยู่ที่อก"

 

และข้อความว่า "พรุ่งนี้ผมว่างเล่นคอมเมื่อไหร่ ผม จะตอบ ทุกๆคอมเม้นของทุกๆคนนะครัฟ ขอบ คุณมากๆครับทุกๆคอมเม้น รักมากๆครัฟรักคนไทยที่ติดตาม ผม ถึงผมจะไม่เก่งถึงแชม อลป แต่ก้ยังตามผม รักมากๆครัฟ"

 

 

ส่วนสาเหตุที่ "ตีโต้ ศุภนร" ต้องเดินทางไปลอนดอนเพียงคนเดียว โดยไม่มีโค้ช มาด้วย เนื่องจากเพราะไม่มีโควตา ทั้งที่ ตีโต้ เป็นนักกีฬาในโครงการ “ดาวรุ่งมุ่ง ยูธ โอลิมปิกและนานาชาติ” ของสมาคมกรีฑาฯ รวมทั้งยังเป็นนักกีฬาในโครงการ “สปอร์ต ฮีโร่” ของการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย เมื่อเรื่องถึงนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทสไทย ( กกท.) ก็ได้ตำหนิสมาคมกรีฑาฯ อย่างหนัก พร้อมกับจัดโค้ชมาให้ แต่ก็มามีปัญหาอีกครั้งเรื่องไอดีการ์ด เข้าสนามการแข่งขัน

 

ต้องติดตามกันต่อไปว่า เมื่อเรื่องราวปัญหาเกิดขึ้นกับนักกีฬาระดับทีมชาติ แต่กลับถูกปฏิบัติอย่างไม่ใยดี ทั้งยังต้องจัดการกับเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะได้ขึ้นชื่อว่า นักกรีฑากระโดดไกลทีมชาติไทย คนแรก ที่ได้มาถึงโอลิมปิคก็ตาม แต่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฑา จะจัดการเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างไร

กำลังใจ จากการทุ่มเทพละกำลังฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่ต้องมาเสียเวลาเพื่อไปตามหาโค้ช และเดินเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง จนไม่ได้ซ้อม กระทั่งไม่ผ่านรอบคัดเลือก หมดสิทธิ์ลุ้นเหรียญตามความคาดหวังของหลายๆคน ของตีโต้จะมีการฟื้นฟูและเยียวยาอย่างไร จากนี้ เส้นทางของหนุ่มน้อยผู้เด็ดเดี่ยว แต่หัวใจแกร่ง กล้าหาญที่จะกระโดด ไกลไปถึงฝั่งฝันประทับเท้าบนพื้นทราย ถึงลอนดอน จะเป็นเช่นไร

 

 

 

เจ้าของเหรียญทองกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 4 ที่เวียดนาม, เหรียญทอง กรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก 2009 ครั้งที่ 6 ที่อิตาลี ,เหรียญทองกีฬาอาเซียนสกูลเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่สุพรรณบุรี ,เหรียญทอง ซีเกมส์ 2009 และยังเป็นเจ้าของรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น ประจำปี 2552 จะได้รับการต้อนรับ สนับสนุนอย่างดี แม้จะไม่ได้เหรียญอะไรเลยใน"ลอนดอนเกมส์" กลับมาหรือไม่ ?

 

 

และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะมีใคร(บ้าง) ที่รับผิดชอบ... ?

เป็นเรื่องที่คนไทยหลายๆ คนที่เมื่อทราบเรื่องจากแดนไกล ต่างรู้สึกเห็นใจ และกระหน่ำกำลังใจให้ "ตีโต้ ศุภนร" จนล้นโลกออนไลน์

 

ก็อยากจะรู้คำตอบจากทางผู้ใหญ่อยู่เหมือนกัน....