เจ็บจี๊ด! อิม เลิกแฟนหนุ่ม โจ้ อานนท์ ธรรมบุตร อึ้งโดนหลอก4ปี
"หัวใจเจ็บมากเลยค่ะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอคนหักหลัง หลอกคบกันมา 4 ปี หลอกด้วยคำว่ารัก หลอกว่าจะแต่งงาน หลอกเรื่องเรือนหอ แล้วเป็นคนที่เรียกว่าแฟนกัน ไม่อยากเชื่อว่านี่คือจิตใจมนุษย์เหรอ" ดารา-พิธีกรจอมทะเล้น "อิม"อชิตะ สิกขมานา พรั่งพรูเป็นชุด หลังเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง "โจ้"อานนท์ ธรรมบุตร ที่คบกันมา 4 ปี ได้เกือบ 2 อาทิตย์
โดย "อิม" กล่าวต่ออีกว่า "มันเหมือนละครเกินไป ตลอดเวลาที่เป็นแฟนกันมา 4 ปีคือการแสดงทั้งหมด อึ้งมาก แต่ก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการให้กำลังใจเยอะ ยอมรับว่าเสียใจมากแต่ก็คิดว่าเป็นโชคดีที่อิมไม่แต่งงานมีลูกกับเขาไปก่อน ไม่อย่างนั้นชีวิตอิมคงจบยิ่งกว่านี้"
เลิกนานแค่ไหนแล้ว "ไม่ถึง 2 อาทิตย์ แต่ก่อนจะเลิกกันก็ถามแบบเคลียร์เลยว่าคบกันเพราะอะไร เขาบอกว่าอยากได้บางสิ่งบางอย่างจากอิม ได้แล้วก็เลิกเลย ละครชัดๆ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตจริง เข้าใจว่าเป็นคนบ้าเงิน แต่ไม่คิดว่าเงินจะซื้อเขาได้ขนาดนี้"
อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าตัวเองโดนหลอกมาตลอด 4 ปี "เมื่อก่อนเขายังไม่มีอะไรมาก จนปัจจุบันเขามีในสิ่งที่เขาต้องการ เขาเลยบอกว่าไม่สนอิมแล้ว หมดผลประโยชน์กับเขาแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่กับพี่ของอิมบอกตลอดว่าให้ดูดีๆ เขาดีเฉพาะกับอิมนะ แล้วเวลาอิมรักใครจะตาบอดมาก แล้วอิมก็ประกาศตัวแรงมากว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เขาก็พูดเรื่องแต่งงานตลอด จนวันหนึ่งเขาได้สิ่งที่เขาต้องการแล้วก็ไปแบบไร้เยื่อใย ทุกวันนี้อิมยังเหวออยู่เลยว่าคนเคยรักกันทำแบบนี้ได้ยังไง ปีหน้าเขาบอกว่าจะแต่งงาน ตอนนี้มาบอกเลิกด้วยเหตุผลเรื่องเงิน ที่ผ่านมาอิมเหนื่อย ที่พยายามฉุดให้เขาเป็นคนดี เคยบอกเขาว่าที่รักอย่า ทำแบบนี้เลย แต่ก็ไม่สำเร็จ"
พอถามว่า มีการโกงเงินกันไหม ดาราสาวกล่าวว่า "เขาไม่ได้เอาเงินจากอิมไป แต่เหมือนเขาได้คอนเน็กชั่นที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด โดยใช้อิมเป็นเครื่องมือ บางอย่างก็พูดไม่ได้ทั้งหมด ส่วนเรื่องยืมเงินกันนั้น อิมไม่เคยยืมเงินเขา แต่เขายืมเงินอิมหรือเปล่า บอกไม่ได้ค่ะ"
เข็ดกับความรักเลยหรือเปล่า "ตอนนี้เข็ดเลย เหมือนโดนหลอกมา 4 ปีไม่รู้ว่าจิตใจคนทำกันขนาดนี้ได้ยังไง"
แผนแต่งงานจะว่ายังไง "ไม่แต่งกับคนนี้แน่นอน เขาน่ากลัวมาก ทุกอย่างจบแล้ว"
แล้วธุรกิจร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จะทำด้วยกันล่ะ "อิมยังหาทางออกไม่ได้เลย ปลายปีนี้ร้านจะเปิดแล้ว แต่สมองมันคิดไม่ออก นอกจากร้านแล้วก็มีบางอย่างที่ติดค้างกันอยู่ ซึ่งหาทางออกไม่ได้เลยสักอย่าง"