เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.อุดม โกยเก็บ ร้อยเวรสภ.ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี รับ แจ้งจากหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ว่ามีเหตุคนใช้มีดไล่แทงกันมาจากบ้านเลขที่ 25/112 หมู่ 3 ต.สุรศักด์ อ.ศรีราชา ซึ่งอยู่ด้านหลังหลังศาลเจ้าเพียวเยี้ยงไท้ พบผู้บาดเจ็บถูกอาวุธมีดแทงตามร่างกายและใบหน้าเป็นบาดแผลฉกรรจ์กว่า 10 แผล นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ที่พื้นหน้าศาลเจ้า ทราบชื่อคือ นายฤทธิ์ไกร มีชำนาญ 
 
 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจศรีราชา ออกค้นหาตัวผู้ก่อเหตุ พบนายสุพจน์ ตัณตะยานนท์ อายุ 68 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอยสวนป่าถนนสุขาภิบาล 6 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา และมีเลือดเปื้อนอยู่ที่รถจำนวนมากจึงเรียกตรวจสอบก่อนจะทำการ ควบคุมตัวไปสอบสวน

 โดย นายสุพจน์ ให้การว่า นายฤทธิ์ไกร ผู้บาดเจ็บ เป็นคนรับจ้างตามทวงหนี้ ขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ มาจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 25/112 หมู่ 3 ตำบลสุรศักด์ อำเภอศรีราชา ของตนเองแล้วเดินเข้าไปทวงหนี้แต่ตนเองไม่เคยมีหนี้สินมาก่อนมีเพียงหนี้ธนาคารจากการซื้อบ้านเท่านั้น ซึ่งนายฤทธิ์ไกรยืนยันว่าจะยึดรถจักรยานยนต์ และทีวี ตู้เย็น รวมถึงสิ่งของมีค่าทั้งหมดภายในบ้านไปก่อน จึงทำให้นายสุพจน์ ผู้เฒ่าวัย 68 ปี ทนกับพฤติกรรมไม่ไหววิ่งไปคว้ามีดในบ้านออกมาไล่แทงและต่อสู้กันอยู่ที่หน้าบ้านพักนึง ก่อนที่หนุ่มรับจ้างทวงหนี้สู้ไม่ไหววิ่งหนีและร้องตะโกนให้คนช่วย

 นายสุพจน์ที่เกิดบันดาลโทษะอยู่ จึงวิ่งตามไปและหนุ่มรับจ้างทวงหนี้เกิดเสียหลักล้มลงจึงได้ใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงซ้ำหลายสิบแผลท่ามกลางคนผ่านไปมาในศาลเจ้าก่อนที่จะเดินกลับมาที่บ้านเกิดเหตุ ของตนเองแล้วนำมีดก่อเหตุไปทิ้งไว้ในถังซักผ้าหลังบ้านแล้วจะขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะหลบหนีแต่ยังไม่ทันออกจากซอยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทันควัน 

 ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุแล้วพร้อมนำ ตัวนายสุพจน์ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่แน่ชัดและรอสอบสวนนายฤทธิ์ไกรซึ่งอยู่ในอาการสาหัสยังให้การไม่ได้ ถึงสาเหตุของการมาทวงหนี้ในครั้งนี้ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายสุพจน์ต่อไป