ความลับ-หลังพวงมาลัย ทำไม ป้ายแดงเก๊

 

 

 

 


ความลับ-หลังพวงมาลัย ทำไม ป้ายแดงเก๊

 

 

ป็นอีกหัวข้อสนทนาที่เรียกคอมเมนต์ได้หลากหลาย นั่นคือปัญหาป้ายทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) 

ก่อนหน้านี้เกิดกรณีป้ายทะเบียนแตกลายงา ในหมวด ฎก-ฎว หลังประมูลตัดราคากันแบบหั่นแหลก จากปกติ แผ่นป้ายทะเบียนมีต้นทุนประมาณ 50-70 บาท ลดวูบเหลือ 25 บาทต่อป้าย

ส่งผลให้คุณภาพป้ายลดลง ทางกรมการขนส่งทางบกจึงแก้ไขด้วยการปรับปรุงเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ที่ใช้มาร่วม 20 ปีใหม่ ขยายเวลารับประกันป้ายจาก 1 ปี เป็น 5 ปี 

ในอนาคตหากเกิดป้ายทะเบียนชำรุดในลักษณะนี้ แต่ยังอยู่ช่วงรับประกัน ทางบริษัท ผู้ผลิตจะต้องรับผิดชอบเปลี่ยนให้ฟรี พร้อมกันนี้กรมการขนส่งทางบกยังจัดซื้อป้ายทะเบียนใหม่อีก 7 ล้านแผ่นป้าย เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ โดยกำหนดรับมอบล็อตแรกในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

ยังไม่ทันรับมอบก็มีปัญหาร้องเรียนเรื่องป้ายดำ หรือป้ายทะเบียนขาวตัวหนังสือดำเกิดขึ้นอีก 

คราวนี้เป็นกรณีที่ผู้ซื้อรถไปขอจดทะเบียนรถใหม่กับกรมการขนส่งทางบก แต่ทางกรมไม่มีป้ายทะเบียนให้

เจ้าของรถกลัวตำรวจจับปรับ และยังสงสัยว่าจะขับรถในช่วงเวลาปกติได้หรือไม่ จนกรมการขนส่งทางบกต้องออกมาประกาศ ได้ประสานกับตำรวจไม่ให้จับกุมผู้ที่จดทะเบียนแต่ไม่ได้ป้ายแล้ว โดยให้ใช้หลักฐานการจดทะเบียนแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแทน

และล่าสุด สดๆ ร้อนๆ เกิดปัญหา "ป้ายแดง" ไม่พอขึ้นมาอีก

เป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับจำนวนรถใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ผู้ขับขี่รถใหม่หลายคนก็งงๆ เมื่ออยู่ๆ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับปรับเพราะใช้ป้ายแดง

ในปัญหานี้ กรมการขนส่งทางบกยืนยันว่าไม่เกี่ยว โยนเรื่องไปว่า ตัวแทนจำหน่ายรถบริหารจัดการไม่ดีต่างหาก 

โดยระบุว่า แต่ละปีกรมการขนส่งทางบกจะแจกจ่ายทะเบียนป้ายแดงให้กับตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำไปหมุนเวียนให้บริการอยู่แล้ว 

หากตัวแทนจำหน่ายเร่งนำรถใหม่ไปจดทะเบียน เพื่อรับป้ายดำมาให้กับผู้ซื้อก็จะไม่มีปัญหาทะเบียนป้ายแดงขาดแคลน

ความล่าช้าที่เกิดขึ้นของตัวแทนจำหน่ายมาจากหลายสาเหตุ เช่น การทำเอกสารล่าช้า จึงไม่สามารถไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้

หากเอกสารทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จะใช้เวลาเพียง 3 วันก็ได้ทะเบียนป้ายดำมาใช้แล้ว หลังจากนั้นก็สามารถนำป้ายแดงไปหมุนเวียนใช้กับรถคันใหม่ต่อไป 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการรอโอนเงินจากบริษัทแม่ ไม่มีเงินไปเอารถใหม่ออกมาจากสต๊อก บางครั้งต้องรอขายให้ครบ 5-6 คันก่อน เพื่อให้ได้เงินครบพอที่จะนำไปหมุนต่อได้ 

ทำให้การจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกล่าช้า ป้ายแดงที่มีอยู่ไม่เพียงพอ 

บางคนอาจต้องรอนานถึง 5 เดือน จึงจะได้เปลี่ยนป้ายแดงเป็นป้ายดำ หากใครที่โทร.ไปเร่งติดต่ออยู่เรื่อยๆ ก็จะได้ป้ายดำเร็ว ส่วนที่ไม่ค่อยติดต่อก็ต้องใช้เวลานาน

กรมการขนส่งทางบกยืนยันว่า การแจกป้ายแดงให้ตัวแทนจำหน่าย จะไม่ให้เต็ม 100% ตามที่ขอมา จะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม คือประมาณ 60-70% เท่านั้น

ให้ตัวแทนจำหน่ายรีบนำรถไปจดทะเบียนให้เรียบร้อยโดยเร็ว เพราะยิ่งล่าช้ามากเท่าไรก็จะยิ่งส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้มากขึ้นเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่ากรมการขนส่งทางบกไม่มีนโยบายสนับสนุนรถป้ายแดง เพราะหากให้ป้ายแดงเท่ากับปริมาณรถที่ซื้อใหม่ทุกวัน จะไม่มีใครสนใจที่จะไปขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก

พร้อมกันนี้เห็นว่านโยบายรถคันแรกของรัฐบาลส่งผลให้มีการซื้อรถใหม่เพิ่ม ขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่ผ่านมามีการนำรถไปจดทะเบียนใหม่ประมาณ 5 หมวดตัวอักษร หรือประมาณ 50,000 คันต่อเดือน จากก่อนหน้านั้นที่มี 2 หมวดตัวอักษร ประมาณ 20,000 คันต่อวัน จึงอาจจะส่งผลให้ตัวแทนจำหน่ายต้องดำเนินการในเรื่องของเอกสารหลักฐานเป็น จำนวนมาก หรืออาจจะมุ่งเน้นการจำหน่ายอย่างเดียว ไม่ได้สนใจทำเรื่องจดทะเบียนให้กับผู้ซื้อ 

เมื่อป้ายแดงไม่พอ แทนที่จะเร่งไปจดทะเบียนให้ได้ป้ายดำโดยเร็ว กลับไปทำป้ายแดงปลอมขึ้นมาให้กับผู้ซื้อแทน ไม่มีสมุดทะเบียนของป้าย และไม่ยอมบอกรายละเอียดของป้ายให้ผู้ซื้อรับทราบ เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่สนใจ กลายเป็นปัญหาของผู้ซื้อ

ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็เป็นปัญหาอันเกิดจากผู้ซื้อที่ต้องการครอบครองป้าย แดงไว้เอง โดยเฉพาะป้ายทะเบียนที่มีเลขสวย ถูกโฉลก หลายคนยอมเสียเงินประกัน 2,500 บาทเพื่อจะได้มีป้ายแดงไว้คู่บารมีกับป้ายดำ จนทำให้ ผู้ซื้อรถคันใหม่หลายคนเดือดร้อนไปตามๆ กัน

จากการพูดคุยกับตัวแทนพนักงานขายหรือเซลส์ของบริษัทรถแห่งหนึ่งระบุว่า ปัจจุบันยอมรับว่าป้ายแดงมีปัญหาขาดแคลนมาก โดยเฉพาะภายหลังจากที่รัฐบาลมีโครงการรถคันแรก 

จากปกติที่มีป้ายหมุนเวียนในโชว์รูมอย่างน้อย 100 ป้ายต่อเดือน เพราะโดยปกติแล้วภายใน 1 เดือนลูกค้าสามารถไปจดทะเบียนรถเปลี่ยนเป็นป้ายดำได้เลย

แต่ขณะนี้ต้องรออย่างน้อย 2-3 เดือน เพราะกรมการขนส่งทางบกไม่มีป้ายให้ โรงงานผลิตป้ายเองมีปัญหาเรื่องการผลิตป้ายแตกลายงา ขณะเดียวกันจำนวนรถที่ออกมาก็ค่อนข้างมาก ทำให้ป้ายไม่พอกับลูกค้าที่ไปขอจด

ส่วนปัญหาป้ายแดงปลอมนั้นปัจจุบันยอมรับว่ามีประมาณ 30% ของจำนวนป้ายทั้งหมด เนื่องจากหาซื้อง่ายคือราคาคู่ละ 50 บาท 

แต่ลูกค้าต้องรับความเสี่ยงที่จะถูกจับเอาเอง เพราะก่อนให้ป้ายก็ต้องถามความสมัครใจของลูกค้าก่อนที่จะออกให้ 

โชว์รูมขายรถบางแห่งบอกกับลูกค้าว่าหากมีปัญหาถูกจับ ทางเซลส์ยินดีที่จะจ่ายค่าปรับให้

วิธีสังเกตอย่างไรว่าป้ายไหนจริง ป้ายไหนปลอม มีข้อบ่งชี้ 2 เรื่องหลัก คือ 

เป็นเลขสวย เช่น 888 หรือ 999 เพราะปกติป้ายแดงจะไม่มีเลขสวยลักษณะนี้ 

กับอีกข้อสังเกตสำคัญสุดคือ ป้ายนั้นจะไม่มีปั๊มตัวนูน ตราสัญลักษณ์ ขบ. นั่นเอง !!!

 

Credit: http://www.babnee.com/knowledge-id2765.html
1 ส.ค. 55 เวลา 23:06 2,239 3 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...