เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ผู็สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พล.ต.ต.มณฑล เงินวัฒนะ ผบก.ตท. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป.และเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเบลเยี่ยม ประจำประเทศไทย แถลงข่าวจับกุมนายมาร์ค เดอ ชัทเทอร์ (Mr.Marc De Schutter) อายุ 57 ปี สัญชาติเบลเยี่ยม ผู้ต้องหาตามศาลอาญา ฐานความผิดเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 77/7 ถนนไสยวน ซอยสามัคคี 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.สุพิศาล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้รับประสานจากสถานทูตเบลเยี่ยม และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุม นายมาร์ค ซึ่งเป็นมาเฟียรายสำคัญ ที่กระทำความผิดคดีสำคัญๆ ที่ประเทศเบลเยี่ยมมาหลายคดี มีทั้งคดีฆาตกรรม และคดีที่เกี่ยวข้องกับการเงิน นอกจากนี้ยังกระทำผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่ร่วมกับมาเฟียของประเทศอิตาลี อิสราเอล และหลายประเทศในกลุ่มประเทศยุโรป

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอาศัยอยู่ที่จ.ภูเก็ต จึงวางแผนจับกุมตัวไว้ได้ ทราบว่าหลังจากผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในหลายประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ถือหนังสือเดินทาง หมายเลข EH976320 เข้ามาอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต หลังจากนี้จะดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลการจับกุม และเร่งติดตามผู้ต้องหาที่เป็นอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งพบว่ามีการหลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ

ด้านนายถิรวัฒน์ ปิดพยันต์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าจากข้อมูลทราบว่า นายมาร์คเคยก่อคดีเข้าไปทำลายข้าวของ ทำตัวเป็นมาเฟีย จัดการบริหารที่ดิน ฉ้อโกงเงิน ศาลสั่งปรับถึง 20 ล้านยูโร นอกจากนี้ผู้ต้องหายังเกี่ยวข้องกับธุรกิจขนถ่ายสินค้าผิดกฎหมาย โดยพบว่ากระทำความผิดธุรกิจฟอกเงินยาเสพติด และคาสิโน มีการติดต่อทำธุรกิจกับมาเฟียในอิสราเอล เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และอัลเมเนีย ที่ผ่านมาได้หลบหนีมาหลายประเทศ ก่อนเข้ามาอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อทำธุรกิจมืดในสิงคโปร์

ส่วนนายมาร์ค ผู้ต้องหาให้การว่า สาเหตุที่ใช้ จ.ภูเก็ตเป็นที่พักอาศัย เนื่องจากสะดวกในการเดินทางไปทำธุรกิจที่ ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่เคยก่อเหตุในประเทศไทย และขอให้ตรวจสอบจากประวัติได้

สำหรับประวัติของนายมาร์ค พบว่าเป็นมาเฟียอันดับ 1 ที่ตำรวจเบลเยี่ยมต้องการตัวมากที่สุด และเป็น 1 ใน 5 มาเฟียรายสำคัญที่อยู่ในบัญชีดำของประเทศในสหภาพยุโรป ส่วนพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้นเกี่ยวพันกับการค้าสิ่งผิดกฎหมายที่ลักลอบนำ เข้าจากภายนอกประเทศเบลเยี่ยม มีการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิดในประเทศอิสราเอล และอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีคดีฉ้อโกงทรัพย์โรงงานน้ำมันรายใหญ่แห่งหนึ่ง จนศาลมีคำสั่งปรับเป็นเงิน 20 ล้านยูโร โดยเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผู้ต้องหายังได้ก่อคดีฆ่าอดีตภรรยาตัวเองแล้วนำศพไปซ่อนไว้ ในครั้งนั้นผู้ต้องหาได้รับความช่วยเหลือจากนายตำรวจระดับสูงในประเทศเบลเยี่ยม จึงทำให้หลบหนีคดีได้