วอนช่วยเด็กแฝดสยามตัวติดกัน หลังสำรวจพบ ความเป็นอยู่ลำบาก พ่อ-แม่ยากจน ระบุไม่ขอเสี่ยงผ่าแยร่างลูกสาวทั้งสอง หวั่นคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต
จากกรณีที่เดลินิวส์ได้นำเสนอข่าว เด็กฝาแฝดสยามเพศหญิง อายุ 3 ปี 8 เดือน ชาวจังหวัดนครสวรรค์ มีร่างกายผิดธรรมชาติ ลำตัวติดกันแต่มีขาและอวัยวะเพศร่วมกัน กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ อยู่ที่ห้องเช่า ภายในบ้านเลขที่ 158/15 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เนื่องจากกำลังประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรสาวแฝดเป็นอย่างมากนั้น
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบเด็กฝาแฝดสยาม ที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง พบว่า ที่อยู่อาศัย เป็นห้องเช่าเล็กๆ ขนาด 6x4 เมตร โดยที่ภายในห้อง พบนายมนัส ร่มโพธิ์เย็น อายุ 33 ปี กำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แก่บุตรน้อยฝาแฝดสยาม คือ ด.ญ.จรูณโรจน์ หรือน้องปาน และด.ญ.จรูณพันธุ์ หรือน้องปิ่น ร่มโพธิ์เย็น ที่สภาพมี 2 ศีรษะ มีแขน 4 ข้าง แต่กลับมีร่างกายเดียวกัน มีขา 2 ข้าง และมีรูทวารเพียงรูเดียว ซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถเดินเองได้ ต้องมีคนคอยอุ้มประคองอยู่ตลอดเวลา
จากการสอบถามนายมนัส เปิดใจเล่าให้ฟังว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยา คือนางวาสนา ร่มโพธิ์เย็น อายุ 24 ปี มาเป็นเวลากว่า 1 ปี ก่อนจะให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดทั้งสองคน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 52 และตอนที่บุตรพึ่งเกิดใหม่ ก็ได้มีสื่อมวลชนจากทุกแขนงในพื้นที่ นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว จนทำให้มีประชาชนผู้เมตตา รวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัดมาให้การช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือในระยะสั้นๆ เท่านั้น จึงทำให้ทุกวันนี้ ครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่กันอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีฐานะยากจน โดยตนประกอบอาชีพรับจ้างเชิดแห่มังกร มีรายได้เพียงครั้งละ 500- 1,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน เพราะหากไม่มีคนจ้างให้ไปแสดง ก็จะไม่มีรายได้มาใช้จ่ายเลี้ยงจุนเจือครอบครัว ส่วนภรรยาตน ประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในตลาดเทศบาลนครนครสวรรค์ มีรายได้ต่อเดือน จำนวน 5,000 บาท
“ทุกวันนี้ บุตรของตนได้รับการช่วยเหลือ จากเงินคนพิการ จำนวน 2,000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในการเลี้ยงดูบุตรทั้งสองนั้น เดือนหนึ่งสูงกว่า 15,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะมีค่านม และค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการพาบุตรสาวเดินทางไปทำกายภาพที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นประจำทุกสัปดาห์ ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง จึงอยากวอนขอผู้ใจบุญโปรดให้ความช่วยเหลือน้องปานและน้องปิ่นด้วย เพราะลำพังตนและภรรยา รับจ้างอย่างเดียวไม่พอกิน อีกทั้ง ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ยิ่งทำให้ตนต้องขาดรายได้จากการรับจ้างเชิดมังกรไปโดยปริยายนานหลายเดือน เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีใครกล้าจ้างให้คณะมังกรไปทำการแสดง หนำซ้ำ บุตรก็ยังโตขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น” นายมนัสกล่าวด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการผ่าตัดแยกร่างน้องปานและน้องปิ่น นายมนัสกล่าวว่า เป็นไปได้ยาก โดยแพทย์ที่ดูแลน้องปานและน้องปิ่น ระบุว่า ไม่สามารถผ่าตัดแยกร่างกายให้ได้ เนื่องจากลูกสาวทั้งคนมีลำตัว และกระดูกเชิงกรานติดกัน จึงต้องปล่อยให้ดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป เพราะว่าหากเข้ารับการผ่าตัด จะเสี่ยงต่อการที่ใครคนหนึ่งต้องเสียชีวิต ส่วนปัญหาอื่น จะมีก็เรื่องรูทวารที่บริเวณหน้าท้องเล็กเกินไป จึงทำให้เวลาขับถ่ายไม่ค่อยสะดวก ตนและภรรยาต้องใช้ด้ามเทียนไขคอยยัดรูทวารของลูกสาวไว้ ในช่วงเย็น วันละประมาณ 5-10 นาที เพื่อไม่ได้รูทวารปิด ลูกสาวก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แต่เราเป็นพ่อเป็นแม่ ยิ่งเจ็บปวดกว่าหลายเท่า สงสารลูกมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า หลังจากที่เดลินิวส์มีการนำเสนอข่าวออกไป เริ่มมีผู้ใจบุญเข้าให้การช่วยเหลือบ้างหรือไม่ พ่อเด็กแฝดสยาม กล่าวว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ปรากฏว่า ในวันนี้มีผู้ใจบุญที่ขอไม่ประสงค์เปิดเผยนาม ประมาณ 10 กว่าราย โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตน เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับน้องปานและน้องปิ่น รวมทั้งเรื่องเส้นทางที่จะเดินทางมาที่บ้าน และเรื่องยี่ห้อนมที่เด็กดื่มกิน พร้อมกับรับปากว่าจะเดินทางมาให้การช่วยเหลือในภายหลัง ซึ่งทางครอบครัวต้องขอขอบคุณเดลินิวส์อย่างสูง ที่ช่วยนำเสนอข่าวในครั้งนี้
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีจิตศรัทธาต้องการให้ความช่วยเหลือในเรื่องสิ่งของหรือเงินค่าใช้จ่าย สามารถบริจาคโดยตรงได้ที่บ้านเลขที่ 158/15 หมู่ 1 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หรือที่บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครสวรรค์ หมายเลขบัญชี 5062581474 หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของนายมนัส หมายเลข 089-6384482