ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพนายธวัชชัย สุตาลังกา อายุ 42 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงลายสกอตขาสั้นสีเทา ใช้เชือกผูกคอตายกับลูกกรงของหน้าต่างห้องนอน เสียชีวิตอยู่ในท่านั่งพับเพียบ บริเวณข้อมือขวามีสายสิญจน์ผูกโยงกับข้อมือขวาของนางณัฐพร สุตาลังกา อายุ 25 ปี ภรรยา ที่นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพสวมเสื้อลายสีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีม่วง มีบาดแผลโดนของมีคมฟันที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ กะโหลกแตกจนเห็นถึงสมอง นอนตายจมกองเลือด ใกล้กันพบมีดอีโต้เปื้อนเลือดยาว 1 ศอก ตกอยู่ในซอกกำแพงบนหัวเตียง แพทย์ระบุว่าทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ช.ม.

 

นายทองคำ ตั้งการ บิดานางณัฐพรให้การว่า ลูกสาวและนายธวัชชัยแต่งงานอยู่กินกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีลูกชาย 1 คน เรียนอยู่ชั้น ป.2 โดยนายธวัชชัยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนลูกสาวทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าลูกสาวกลับจากทำงาน จากนั้นทำความสะอาดบ้านและซักผ้า โดยนายธวัชชัยยังช่วยซักด้วย

 

นายทองคำกล่าวว่า เมื่อเสร็จจากงานบ้าน ทั้งคู่หายเข้าไปในบ้านพักเมื่อเวลา 10.00 น. คาดว่าลูกสาวไปนอนพักผ่อนเนื่องจากต้องทำงานในกะกลางคืน กระทั่งเวลา 15.00 น. ไปเคาะประตูปลุกลูกสาวเพื่อให้ไปรับหลานที่โรงเรียนด้วยกัน แต่เคาะเรียกอยู่นานไม่มีเสียงตอบรับ จึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู จนพบว่าเสียชีวิตแล้วทั้งคู่

 

ด้านพี่สาวของนายธวัชชัยให้การว่า น้องชายรักและหึงหวงภรรยา เนื่องจากยังสาวและสวย ระยะหลังมีคนมาติดพันเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ชายและทอมบอย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา น้องชายปรับทุกข์ให้ฟังว่ากลัวน้องสะใภ้จะปันใจให้คนอื่น เพราะอายุต่างกันมากถึง 17 ปี จากนั้นน้องชายกลับบ้านไป โดยไม่มีท่าทีที่ผิดสังเกตว่าจะไปก่อเหตุไม่คาดฝันดังกล่าว

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายธวัชชัยเกิดความเครียดเรื่องที่มีคนมาติดพันภรรยาสาว จนเกิดความหึงหวงเพราะภรรยายังเด็กและหน้าตาดี จึงฉวยโอกาสที่ภรรยากำลังนอนพักผ่อนใช้มีอีโต้ฟันศีรษะจนเสียชีวิต จากนั้นใช้สายสิญจน์ผูกข้อมือโยงไว้กับข้อมือภรรยา ก่อนจะผูกคอตายเพื่อให้อยู่คู่กันตลอดไป สร้างความสลดหดหู่ให้บรรดาญาติและผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยญาติทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าจะประกอบพิธีศพคู่กัน เพื่อให้อยู่ด้วยกันจนนานที่สุด