รู้ตัวป้าแม่บ้านที่โดนเด็กมัธยมเอาเก้าอี้ฟาดหน้าแล้ว ด้านวินมอเตอร์ไซค์เผย ทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องนาฬิกา ขณะที่บริษัทต้นสังกัดระบุ ป้าแม่บ้านมายื่นใบลาป่วย บอกถูกลูกหลงเด็กตีกัน จนกระดูกไซนัสบริเวณใบหน้าแตก
จากคลิปเหตุการณ์เด็กมัธยมคว้าเก้าอี้ฟาดหญิงแม่บ้านจนล้มคว่ำ ริมถนนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเว็บไซต์ Liveleak เว็บไซต์เผยแพร่คลิปหายากชื่อดังของต่างประเทศได้เผยแพร่คลิปดังกล่าวไปทั่วโลก จนกลายเป็นข่าวฮือฮา และกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างมากในขณะนี้นั้น
ล่าสุด ทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ (24 กรกฎาคม) ได้ระบุว่า รู้ตัวหญิงแม่บ้านที่ถูกเด็กมัธยมเอาเก้าอี้ฟาดหน้าแล้ว โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นวินรถจักรยานยนต์ในละแวกดังกล่าว ได้เล่าว่า เป็นคนอยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนเก็บเก้าอี้ที่แตกเอาไปทิ้ง ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3 ทุ่ม บริเวณห้างสรรพสินค้าหน้าราชประสงค์ โดยตนนั่งอยู่หน้าวินบริเวณนั้น เห็นป้าแม่บ้านเดินมาเรื่อย ๆ สักพักก็มีเด็กมัธยมชายสองคนเดินตามมา จากนั้นก็เข้ามาถามถึงเรื่องนาฬิกาข้อมือ พร้อมพูดถึงราคาว่า หมื่นกว่าบาท จากนั้นก็มีการค้นตัวกันแต่ก็ไม่พบนาฬิกา ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่หลังจากนั้นเด็กทั้ง 2 คนก็เดินกลับมาอีกครั้งเพื่อค้นตัว ก็เจอนาฬิกาจริง ๆ และก็ได้คว้าเก้าอี้พลาสติกหวดเข้าที่หน้าป้าแม่บ้าน จนมีรอยเลือดติดอยู่ที่เก้าอี้ พร้อมกับวิ่งหนีไป ต่อมาก็มีรถตุ๊กตุ๊ก มารับตัวป้าแม่บ้านออกไปหาหมอที่โรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนทางด้านบริษัทต้นสังกัดของป้าแม่บ้านนั้น กล่าวว่า คุณป้าคนนี้เป็นพนักงานบริษัทจริง ชื่อคุณป้าสมจิตร อายุ 50 ปี และในวันที่ 20 กรกฎาคม คุณป้าได้ขอลาป่วยพร้อมกับเอาใบรับรองแพทย์มายื่นให้ดูด้วย โดยใบรับรองแพทย์ระบุว่า กระดูกไซนัสบริเวณใบหน้าแตก เข้ารับรักษาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ส่วนตนก็สอบถามคุณป้าว่าไปทำอะไรมา ด้านคุณป้าตอบว่า เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้าน มีวัยรุ่นตีกันและป้าก็โดนลูกหลงเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อตนเห็นภาพคลิปที่เป็นข่าวแล้ว ตนก็ตกใจมาก เพราะเป็นคุณป้าสมจิตรพนักงานของตน ซึ่งตนก็พยายามติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มีผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวว่า มันยิ่งกว่าคำว่ารุนแรง เนื่องจากป้าแม่บ้านได้ยกมือขอร้องและยอมแล้ว แต่เด็กมัธยมกลับเลือกที่จะทำร้าย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีทางสู้