"ไอ้รุญมันกำลังจะปล่อยยาล็อตใหญ่ให้ลูกค้า มันจะไปเปิดโรงแรมชบา รีสอร์ท ในซอยลำลูกกา 12 ตรงข้ามห้างโลตัส พาเด็กไซด์ไลน์มานอนกก รอส่งมอบของ ถ้าจะจับมันก็ต้องจับตอนนี้ เพราะไอ้หมอนี่ตามตัวยาก ไวอย่างกับกรด ตัวใหญ่ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญ เวลาไปไหนมาไหนมันจะเหน็บปืนติดเอวไม่ห่าง"
คือ เบาะแสสำคัญจากสายที่รายงานให้ชุดทำงานของ ร.ต.อ.พีรพัฒน์ ชูช่วย รอง สว. สส.ภ.จว.ปทุมธานี ซึ่งกำลังตามล่าตัว นายจรุญ ทองนอ วัย 30 ปี นักค้ายาบ้ารายใหญ่ในเมืองปทุมธานีมาพักใหญ่แล้ว
ก่อนหน้านี้รองพีรพัฒน์ตะครุบตัวเครือข่ายของมันไว้ได้ 1 ราย ขยายผลจนรู้ว่านายจรุญกำลังเตรียมส่งมอบยาบ้าล็อตใหญ่ให้กับลูกค้ารายต่อไป
แผนตะครุบตัว "ไอ้รุญ" จึงเริ่มขึ้น!!?
เช้ามืดวันที่ 17 ก.ค. พ.ต.อ.วรพจน์ ชูเชิด ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี มอบหมายให้ร.ต.อ.พีรพัฒน์นำลูกน้องเฝ้าสังเกตการณ์ ดูความเคลื่อนไหวไอ้รุญที่โรงแรมแห่งนี้ กระทั่งพบนายจรุญขับรถเก๋งคัมรี่ไฮบริด สีดำ ทะเบียน กต4936 ลพบุรี เข้ามาเปิดห้องพักพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาดีตามที่สายรายงาน
ตำรวจรอเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง จนมันเผลอจึงตัดสินใจเข้าชาร์จ
ร.ต.อ.พีรพัฒน์นำทีมบุกพังประตูเข้าไปจับกุม
ห้วงนั้น "ไอ้รุญ" กำลังหลับนอนกับสาวขายบริการ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่พังประตูเข้ามา หมอนี่ก็วิ่งสวนออกไปทั้งในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน ต่อสู้ชกต่อยกับตำรวจอย่างอุตลุด และดิ้นหลุดจากมือชุดสืบออกมาได้ในสภาพเปลือยเปล่า
นาทีนั้นไอ้รุญ วิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..และก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต กระโจนลงคลองหน้าโรงแรม ว่ายน้ำข้ามฝั่งมาขึ้นท้ายซอยพหลโยธินก.ม.27 โดยมีรองพีรพัฒน์ว่ายน้ำตามไปติดๆ จนกระทั่งไอ้รุญขึ้นฝั่งไปได้ ก็โกยอ้าวขึ้นไปหลบในบ้านคนย่านใกล้เคียงแบบไร้ยางอาย
ตอนนั้นไอ้รุญคิดว่าคงรอดเงื้อมมือตำรวจไปได้ เพราะทิ้งห่างรองพีรพัฒน์ ที่ใส่กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบไว้ จึงไม่คล่องตัวในการติดตามคนร้าย
แต่ไอ้รุญคิดไม่ถึงหรอกว่าดวงของมันกำลังจะเข้าตาจนใกล้เข้าคุกในอีกไม่กี่อึดใจ
ด้วยเพราะตอนนั้นชุดทำงานของพ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต กำลังนำทีมซ้อมแผนเหตุการณ์คนร้ายปล้นธนาคารในห้างโลตัสอยู่พอดี รองพีรพัฒน์จึงประสานผู้กำกับฯ นราเดช นำกำลังเข้าปิดล้อมไอ้รุญทันที
ห้วงนั้นเสียงวิทยุสื่อสารรายงานรูปพรรณสัณฐานคนร้ายเสียงดังขรม เจ้าหน้าที่ระดมกำลังชุดสืบสวนปราบปรามและตำรวจอาสากว่าร้อยนายปิดล้อมภายในป่ารอบๆ หมู่บ้าน ประสานขอสุนัขตำรวจจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (k9) มากดดันคนร้ายอีกทาง
การล่ารอบสองจึงเริ่มขึ้น
ผู้กำกับนราเดช ประเมินว่าคนร้ายหนีไปไหนไม่ได้ไกล เพราะอยู่ในสภาพเปลือยกาย
เวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมงในที่สุด "ไอ้รุญ" ก็กระโดดออกมาจากชั้นบนบ้านเลขที่ 54/41 ในสภาพไม่ต่างจากชีเปลือย
ทุกสายตาหันไปหาคนร้ายที่กระโดดออกจากหน้าต่างบ้านหล่นลงมาเสียงดังโครมใหญ่ ผู้กำกับนราเดชตะโกนบอกให้มอบตัว แต่ทว่านายจรุญก็ยังไม่มีทีท่าจะมอบตัวแต่อย่างใด ยังคงวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ปีนออกหน้าต่างแล้วเดินไต่ไปบนหลังคา กระทั่งพลาดท่าเหยียบกระเบื้องแตกตกลงมานอนกองอยู่ด้านล่าง จนมุมในสภาพทุลักทุเล เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้พาไปค้นที่โรงแรมพบของกลางยาไอซ์ 8 กรัม ซองบรรจุยาบ้าและยาไอซ์จำนวนมากและอุปกรณ์การเสพอยู่ในรถของคนร้าย
นอกจากนี้ ยังเจออาวุธปืนขนาด .357 ยี่ห้อโคลต์ ไม่มีทะเบียนอีก 1 กระบอก กระสุนปืนชนิดหัวระเบิดอีก 43 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่งจึงอายัดไว้
สอบสวนนายจรุญให้การรับสารภาพว่า นำของกลางยาไอซ์ดังกล่าวมาจากคลองเตยเพื่อนัดหมายมาส่งให้ลูกค้าในโรงแรม และระหว่างที่รอลูกค้า จึงติดต่อเด็กไซด์ไลน์มาร่วมหลับนอนในราคา 3,000 บาท หลังหลับนอนกำลังจะลุกไปอาบน้ำ โดนตำรวจพังประตูเข้ามาจับเลยหนีอย่างไม่คิดชีวิต
จนลืมไปว่าตัวเองแก้ผ้าอยู่!!?
"ตอนหนีผมไม่อาย คิดอย่างเดียวว่าต้องหนีให้ได้ เพราะหากหนีไม่ได้ต้องติดคุกยาว ส่วนของกลางทั้งหมดนั้นเป็นของลูกพี่ชื่อเก่ง ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำคลองเปรม เป็นคนโทรศัพท์จัดหาให้ผมไปรับและนำยามาส่งต่อให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำมานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนรถเก๋งคัมรี่นายเก่งเป็นคนซื้อให้ใช้ทำงานส่งยาเสพติด เพราะเป็นรถหรูราคาแพงใช้ตบตาตำรวจได้จึงรอดมาตลอด"
แต่คราวนี้ไม่รอดจนมุมในสภาพล่อนจ้อน!?!