วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.จำนงค์ รวมจิตร พงส.(สบ.3) สภ.จุน จ.พะเยา แจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้รับแจ้งเหตุจากนายมนัส เวียงลอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ลอ อ.จุน ว่า เกิดเหตุคนยิงกันและมีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ในบ้านของตนเอง จึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.กันต์ศักดิ์ สุรินทชัย รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดกู้ชีพเทศบาลตำบล(ทต.) เวียงลอ ชุดกู้ภัยนรสิงห์ และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง เลขที่ 74/1 หมู่ 11 ต.ลอ เป็นบ้านของนายมนัส เวียงลอ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บริเวณใต้ถุนบ้านมีโต๊ะนั่ง พบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย นอนจมกองเลือด คือ น.ส.วนิดา เดลนูน อายุ 17 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ไหปลาร้าข้างซ้าย 1 นัด หลัง 3 นัด ท้อง 1 นัด และหน้าอก 2 นัด ใกล้กันพบศพชายต่างประเทศ นายออโต เดลนูน อายุ 67 ปี สัญชาติเยอรมนี เสียชีวิตที่ลานหน้าบ้าน สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ลำตัว 5 นัด และ นางนิตยา เดลนูน อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 11 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา ถูกยิงที่ลำตัว 2 นัด คอ 2 นัด เสียชีวิตใกล้กับนายออโต
หลังเกิดเหตุ นายมิตร ไข่ทา อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 115 หมู 11 ต.ลอ อ.จุน อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.ลอ อ.จุน ในมือถือปืนพกสั้นขนาด .22 ยี่ห้อรีวอลเวอร์ ทะเบียน กท 1816198 เดินเข้าไปขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามศรีเมืองชุม อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวพร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นำส่ง พงส.ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายเดินทางมาที่บ้านของนายมนัส (ผู้ใหญ่บ้าน) หารือกันถึงกรณีพิพาทเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัย เนื่องจากนายมิตร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ปลูกบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านของผู้ตาย ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ต่อมาปรากฏว่านายออโต สามีนางนิตยา และพ่อของน.ส.วนิดา เดินทางกลับมาที่บ้าน ต้องการให้นายมิตรย้ายออกไป นายมิตรได้เจรจาขอซื้ออยู่ต่อ เนื่องจากได้ปลูกบ้านอยู่แล้ว เมื่อการเจรจาไม่เป็นผลจึงพากันมาเจรจาที่บ้านของนายมนัส แต่ผลการเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ นายมิตรจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาออกมายิงทั้ง 3 คนพ่อ แม่ ลูก เสียชีวิตคาบ้านผู้ใหญ่บ้าน
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ก่อนนำตัวไปคุมขังไว้ในห้องขัง สภ.จุน
ด้านนายมนัส เวียงลอ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า นายมิตรกับผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นญาติกัน นายมิตรเป็นน้องชายของนางนิตยา ที่มีสามีเป็นฝรั่งชาวเยอรมันคือนายออโต และลูกสาวคือน.ส.วนิดา ก่อนเกิดเหตุนายมิตรและครอบครัวนางนิตยา มีเรื่องขัดแย้งไม่ลงรอยกันมานานหลายปี โดยประมาณ 6-7 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างที่นางนิตยาและครอบครัวยังอยู่เยอรมัน ขณะนั้นนายออโตยังทำงานให้รัฐ อยู่ทางนี้(อ.จุน) นายมิตรได้ดำเนินเรื่องติดต่อซื้อที่ดินแปลงที่สร้างบ้านของนางนิตยาในปัจจุบันให้จนเสร็จเรียบร้อย ทั้งที่ดินและสร้างบ้าน ตลอดจนดูแลในช่วงเวลาที่ครอบครัวของนางนิตยาอยู่ต่างประเทศ นายมิตรดูแลให้ตลอด นางนิตยาจึงได้ชวนนายมิตรมาอยู่ด้วยกัน นายมิตรและครอบครัวจึงมาสร้างบ้านในพื้นที่ของนางนิตยา โดยตกลงกันว่าเมื่อนางนิตยากลับมาอยู่เมืองไทย นายมิตรจะขอซื้อที่ดินที่ได้ปลูกบ้านไว้แล้วมาเป็นกรรมสิทธิของตนเอง แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาที่นายออโตเกษียณอายุกลับมาอยู่เมืองไทย นายออโตและครอบครัวไม่ยอมขายให้ และยังฟ้องขับไล่นายมิตรให้ออกไปจากพื้นที่ กลับมาทุกปีก็ทะเลาะกันทุกปี
นายมนัส กล่าวต่อว่า กรณีพิพาทดังกล่าวทางนางออโต ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน เพื่อขอให้ขับไล่นายมิตรออกไปจากบ้าน เมื่อทางคดียังไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัว ทางอำเภอโดยฝ่ายปกครองนัดไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 27 ก.ค.ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าช้าไป เพราะเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ระหว่างที่ตนกำลังหาทางเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องการไกล่เกลี่ยพิกรณีพาทที่ดินดังกล่าว ทางครอบครัวของนางนิตยาและนายออโต ได้โทรศัพท์แจ้งตนให้รีบกลับบ้านเพื่อไปทำการไกล่เกลี่ย ตนคิดว่าจะจ บแต่สุดท้ายครอบครัวนางนิตยาและนายออโตยืนยันไม่ยอมขาย กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น