เมื่อ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีจัดส่งและให้โอวาทแก่กำลังพลตำรวจตระเวนชายแดนที่จะขึ้นไปรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งหลังจากให้โอวาทแล้ว ตำรวจตระเวนชายแดน จำนวนประมาณ 2 กองร้อย ได้ทยอยกันไปขึ้นรถบรรทุก จำนวน 8 คัน ออกเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยมีการนำเอาสัมภาระ อาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่แทนทหารไทยที่ปรับกำลังทหารออกมาอย่างเต็มที่
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า การปรับกำลังทหารออกจากเขาพระวิหารเป็นไปตามคำสั่งของศาลโลก ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมปฏิบัติตาม อีกทั้ง เมื่อวันที่ 13 ก.ค.55 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้มีการเจรจาตกลงกันที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เพื่อที่จะปรับกำลังทหารทั้งสองฝ่ายออกจากบริเวณเขาพระวิหารในวันที่ 18 ก.ค.55 นี้ ตนจึงขอให้กำลังพลทุกนายที่ไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณเขาพระวิหารปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อไป
ทางด้าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีที่มีการปรับกำลังทหารทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ส่งผลในส่วนของการค้าคิดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของการค้าชายแดนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนนี้ตนคิดว่าน่าจะสูงขึ้นอยู่ประมาณ 10 % แต่เนื่องจากว่าด่านของเราเป็นด่านเล็ก ในเวลานี้ยังมียอดการค้าขายไม่สูงนัก ก็คิดว่าในแต่ละเดือนก็น่าจะมีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมาประมาณเดือนละ 5 – 6 ล้านบาทเท่านั้นเอง ในส่วนของการท่องเที่ยวคงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน คนก็เดินทางมาเที่ยวบริเวณนี้ค่อนข้างน้อย แต่ตนก็คิดว่าถ้าเป็นไปได้ ถ้าเกิดว่าสามารถเปิดตรงบริเวณผามออีแดงได้ ก็น่าจะนำรายได้เข้าสู่ประชาชนในบริเวณนั้นประมาณเดือนละ 20 – 40 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดคืนวันที่ 17 ก.ค.55 ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณเขาพระวิหารได้มีการฉลองตลอดคืน ด้วยความดีใจที่ได้มีการปรับกำลังทหารในครั้งนี้ เนื่องจากว่าจะได้กลับบ้าน ซึ่งทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่รอบเขาพระวิหารก็ได้มีการเคลื่อนย้ายออกมาจากที่ตั้งเดิม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.55) ทั้งนี้เพื่อให้ตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ฐานปฏิบัติการเดิมที่ทหารไทยได้ทำฐานปฏิบัติการเอาไว้ ซึ่งสถานการณ์ยังคงปกติ โดยมีทหารกัมพูชาเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของทหารไทยอย่างใกล้ชิด