วันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากพ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ ผกก. สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีคนร้ายใช้ก้อนหินคว้างใส่รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนพหลโยธิน หน้ามัสยิดเราะห์มานิยะ ม.8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์ โตโยต้าฟอจูนเนอร์ สีบรอน หมายเลขทะเบียน ฆณ-9934 กรุงเทพมหานคร มีสัญญาณไฟเรนอยู่บนหลังคา ที่ประตูติดตราโล่ห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกระจกหลังด้านข้างซ้ายที่นั่ง ตอนหลัง มีรอยแตก ภายในรถพบก้อนหิน ขนาดเท่ากำมือตกอยู่ พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 6 นาย ยืนอยู่
ด.ต.วรพัฒน์ เปรมสุข อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลกล่าวว่า รถยนต์ที่ถูกคนร้ายปาหินใส่เป็นรถตำรวจสันติบาล อยู่ระหว่างเดินทางกลับหลังจากเสร็จภารกิจ ถวายความปลอดภัย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีที่จ.เชียงใหม่ เมื่อขับรถมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุมีคนร้ายขว้างก้อนหินใส่จนกระจกรถแตก จึงได้จอดรถยนต์ สอบถามชาวบ้านว่าเห็นคนร้ายหรือไม่ ทราบว่าคนร้ายได้รีบวิ่งหลบหนีเข้าไปหลังมัสยิด จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาพ.ต.ต.จาตุรนต์ พลานุพัฒน์ สว.สส. สภ.พระอินทร์ราชา พร้อมกำลังได้กระจายกำลังออกติดตามคนร้าย พบนายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุปาก้อนหินใส่รถยนต์ตำรวจสันติบาล
นายเอ ให้การรับสารภาพว่า ได้เคยก่อเหตุขว้างปาก้อนหินบริเวณดังกล่าวใส่รถยนต์ของประชาชนที่สัญจร มาแล้ว4-5 วันแล้ว เนื่องจากไม่พอใจการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ค่อยทำงานและไม่ได้คิดอะไร ขว้างไปแล้วจะไปโดนใคร ไม่ได้หวังที่จะชิงทรัพย์
พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวต่อว่า ได้ตรวจสารยาเสพติดไม่พบแต่ทราบจากคำให้การของผู้ต้องหาว่าเคยเสพยามาบ้าง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เคยถูกปาหินในบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุมาแจ้งความเพิ่มเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา สำหรับในคดีนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา อันเป็นความผิดหนักในข้อหาฐานพยายามฆ่าผู้อื่นทำให้เสียทรัพย์ โชคดีที่ระหว่างที่ผู้ต้องหาปาหินใสไปในรถจังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่ในรถตรงจุดที่ปาหินเข้าไปก้มหยิบของพอดี จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ