ข้อคิดที่ได้จากนวนิยายจีน

ข้อคิดที่ได้จากนวนิยายจีน
 
พระอาจารย์ กล่าวถึงนิยายจีนกำลังภายในว่า "กระบี่เย้ยยุทธจักร ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น เดชคัมภีร์เทวดา ไปแล้ว เรื่องเดียวกันนั่นแหละ ถ้าสำนวนแรกเลยคือ ผู้กล้าหาญคะนอง เป็น หนังสือที่ตีแผ่ความเป็นนักการเมืองในยุทธจักรได้อย่างถึงแก่นจริงๆ มีทั้งประเภทชั่วอย่างตรงไปตรงมา อย่างพวกพรรคมาร ชั่วอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใครว่าหรอก เพราะรู้ว่าพวกมารต้องชั่ว

นอก จากนี้มีประเภทที่ครึ่งชั่วครึ่งดี ก็คือหน้าฉากเป็นค่ายสำนักฝ่ายธรรมะ แต่วิธีการกระทำเป็นฝ่ายอธรรมชัดๆ เลย แล้วก็มีประเภทชั่วเนียนๆ หน้าฉากนี่สุดยอดความดีเลย แต่หลังฉากชั่วสุดๆ เขาบอกว่า กิมย้ง เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะตั้งใจที่จะงัดข้อกับระบบคอมมิวนิสต์ ช่วงนั้นไม่รู้กิมย้งรอดมาได้อย่างไร หรือว่าเขาเขียนเนียนจนกระทั่งอีกฝ่ายตามไม่ทัน

อ่าน เรื่องนี้แล้วจะเห็นว่าคนที่ทำชั่วโดยที่มีหน้าฉากเป็นคนดีนั้น เป็นคนที่น่ากลัวที่สุด กิมย้งจะเขียนเรื่องพวกนี้อยู่ ๓ - ๔ เรื่องด้วยกัน จะออกมาแนวนี้เต็มๆ อีกเรื่องหนึ่งก็ เหล็กคลั่งเลือด ตอนหลังเปลี่ยนเป็น หลั่งเลือดที่นานกิง อันนั้นก็เป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ที่หลอกใช้ลูกศิษย์ให้ไปทำความชั่วแทนตัวเอง"







พระอาจารย์กล่าวถึงหนังสือว่า "หนังสือเรื่อง หลินเจี้ยนหลง เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเลง ที่โดนจับเข้าสถานดัดสันดานและคุก ด้วยข้อหานักเลง เปิดบ่อน และพยายามฆ่า ระหว่างถูกควบคุมตัว เขาดิ้นรนจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ ท้ายสุดจบปริญญาเอกที่อเมริกา กลายเป็นศาสตราจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไต้หวัน




ส่วนถ้าใครอ่าน มังกรคู่สู้สิบทิศ จะเห็นได้ว่า กว่าที่คนเราจะก้าวไปถึงจุดที่ตัวเองต้องการได้ ต้องต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ในการต่อสู้ดิ้นรนระยะแรกเริ่ม ทำให้เห็นชัดเลยว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาแบบบังเอิญ คุณต้องต่อสู้ช่วงชิง ต้องใช้ความพยายาม ส่วนใหญ่เราไปเห็นตอนเขาประสบความสำเร็จแล้ว ตั้งตนเป็นเจ้าแล้ว แต่ที่ไหนได้..ตอนเป็นอันธพาลขนาดข้าวยังไม่มีจะกิน ถ้าไม่มี อาซ้อเจิน สนับสนุน แอบยัดซาละเปาให้ พระเอกก็อดตายไปแล้ว"




"หนังสือเรื่อง หมาป่า ของ เจียงหรง ถ้าอ่านต้นฉบับภาษาจีนด้วยยิ่งดี ฉบับภาษาจีนชื่อ หลางถู่โถว หลางคือหมาป่า ถู่โถวมาจากภาษาอังกฤษ ก็คือคำว่าโทเท็ม หลางถูโถ่ว คือสัญลักษณ์หมาป่า

เล่ม นี้หนาปึ้กเลย เราจะได้รู้ว่าชนเผ่าเร่ร่อนสมัยก่อนทำไมถึงได้นับถือหมาป่าขนาดนั้น อยากจะบอกว่า หนังสือเล่มนี้สามารถเป็นผลงานวิจัยปริญญาเอกได้ เพราะว่าสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม พวกนักศึกษา หรือพวกหัวก้าวหน้า หรือพวกวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง จะถูกส่งตัวไปทำงานแถวๆ มองโกเลียใน ที่เขาใช้ว่ามองโกเลียในเพราะเป็นพื้นที่ของจีน ส่วนมองโกเลียนอกเป็นพื้นที่ของรัสเซีย แต่มีอาณาเขตติดกัน

ในเรื่อง เฉินเจิ้น นักศึกษาจากปักกิ่งอาสาไปใช้แรงงานอยู่แถวนั้น ผจญกับความยากลำบากของดินฟ้าอากาศ ต้องไปตั้งคอมมูนในการผลิตอาหาร ผลิตพวกแพะ แกะ ส่งมาเป็นอาหาร ตัดขนทำเป็นเสื้อผ้า ถ้าการผลิตไม่ดีก็โดนวิจารณ์อีก ตัวที่แสบที่สุดคือหมาป่า เพราะป้องกันอย่างไรหมาป่าก็เอาแกะไปกินได้ เนื่องจากหมาป่ารู้จักแกะมากกว่าคน หมาป่ารอหิมะตกหนาๆ ก่อน แล้วก็ต้อนแกะให้วิ่งไปถึงที่หิมะหนาๆ พอแกะขายันพื้นไม่ได้ก็ติดอยู่ตรงนั้น รอให้หมาป่ามาลากไปกินทีละตัว"

ถาม : (ไม่ได้ยิน)

ตอบ : ก็ คล้ายๆ กัน เพราะว่าถ้าขาดสติ ขาดสมาธิ ก็สู้เขาไม่ได้ การฝึกวิทยายุทธก็คือฝึกสติฝึกสมาธินั่นแหละ ในเรื่องตอนเขานั่งขัดสมาธิ เสร็จแล้วอาจารย์ก็โยนเหรียญลงพื้นดังติ๊ง..! ถามว่าเหรียญอยู่ทิศไหน ถ้าตอบผิดก็เจออาจารย์จัดการลงโทษ

เรา ลองนึกดู หน้าเหนือ หลังใต้ ซ้ายตะวันตก ขวาตะวันออก จากนั้นก็ทะแยงระหว่างซ้ายขวาหน้าหลัง ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ได้ทิศพอดี ก็คือซ้าย ขวา หน้า หลัง ศอกซ้าย ศอกขวา เข่าซ้าย เข่าขวา ๘ ทิศพอดี คราวนี้รู้แล้วหรือยังว่าเขาแยกแยะได้อย่างไรว่ามาทิศไหน ? ฟังดูแล้วไม่น่ายาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึก ต้องฝึกจนชินจริงๆ ฟังเสียงลมรู้การเคลื่อนไหว

ในเรื่อง มังกรหยกภาค ๑ นั้น ตัวละครที่ตาบอดเขาใช้การฟังเสียงเอา เวลาต่อสู้กัน เจออีกฝ่ายหนึ่งหลอก เขาใช้ท่าที่ทำให้คนตาบอดฟังไม่ออก เพราะไม่ใช่ท่าที่ใช้ฝ่ามือ ไม่ใช่หมัด ไม่ใช่นิ้ว ไม่ใช่กรงเล็บ คนตาบอดฟังเสียงไม่ออกก็ไม่กล้ารับ ไม่รู้ว่าเขาออกท่าอะไรก็หนีไว้ก่อน ความจริง ก๊วยเจ๋ง สู้ ศพเหล็ก ที่ตาบอดไม่ได้หรอก แต่ศพเหล็กตาบอดเขาระแวง ก็เลยหนี





.
__________________
http://ร่วมบุญมห
Credit: พลังจิตดอดคอม
17 ก.ค. 55 เวลา 08:07 4,504 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...