ทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ศัลยกรรมความงามกลายเป็น "เรื่องใกล้ตัว" ผู้หญิงยิ่งกว่า เมื่อก่อนมาก...มาก เพราะวิวัฒนาการและเทคโนโลยีเสริมความงามมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาล่อตาล่อใจ คนรักสวยรักงามอยู่เสมอ

แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ปัจจุบันมีศัลยกรรมเสริมแต่งความงามจำนวนไม่น้อยที่ไม่ปลอดภัย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาจทำให้พิการ หรือเป็นมะเร็งชนิดต่างๆ ได้

อย่างเช่นการใส่คอนแท็กต์เลนส์บิ๊กอายบางชนิด ที่ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ก็มีข่าวว่าเสี่ยงทำให้ตาบอดได้ หรือการทำผิวสีแทนด้วยซันเบด หรือเตียงทำผิวสีแทนตามร้านเสริมความงามต่างๆ ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังออกมาเตือนแล้วว่า มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่หวั่นกลัว !!!

"ถึงคุณจะบอกฉันว่า การทำผิวสีแทนจะทำให้ฉันเป็นมะเร็งผิวหนัง ฉันก็คิดว่า ฉันยังจะทำต่อไปอยู่ดี" ทริช่า เพย์ทาส สาวอเมริกันวัย 25 ซึ่งยึดอาชีพนางแบบอยู่ในนครลอสแองเจลิส ให้สัมภาษณ์ในรายการกู๊ด มอร์นิ่ง อเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้จากรายงานของเอบีซี นิวส์ และเดลี่ เมล์ เล่าว่า ทริช่า เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ลุ่มหลงการทำผิวสีแทน เข้าขั้น "เสพติด" ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอเล่าว่าไม่เคยพลาดการเข้าร้านเสริมสวยเพื่อทำผิวสีแทนเลยสักวัน โดยแต่ละปีเธอต้องเสียเงินหมดไปกับเรื่องนี้ตกประมาณปีละ 5,000 ดอลลาร์ (ราว 159,000 บาท)

"ฉันต้องไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อทำผิวสีแทนทุกเช้า มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปแล้ว ใครๆ มักจะบอกว่า ฉันเกือบจะเข้าขั้นหลงตัวเอง เพราะฉันชอบตัวฉันเองมากจริงๆ เวลาที่ฉันมีผิวสีแทน"

ทริช่าเล่าว่า ทุกวันเธอต้องแวะไปที่ร้านโทเทิล แทน (Total Tan) ร้านเสริมสวยและทำผิวสีแทนในย่านมาริน่า เดล เรย์ ของนครลอสแองเจลิส เพื่อทำผิวสีแทน โดยบางวันเธอแวะไปที่นั่นถึงวันละ 2 ครั้ง

เธอยังเล่าด้วยว่า หลังจากขึ้นนอนบนเตียงทำผิวสีแทนแล้ว เธอยังต้องใช้สเปรย์ทำผิวสีแทนพ่นทับลงไปบนร่างกายตามไปอีก เพื่อให้มั่นใจว่า ผิวสีแทนของเธอจะสวยงาม คงทน ไร้ที่ติ

"ฉันมักจะรู้สึกว่า สีผิวฉันดูซีด และฉันไม่ชอบตัวเองแบบนั้น เวลามีผิวสีแทน มันทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจ เมื่อคุณเห็นคนมีผิวสีแทน คุณจะรู้สึก ว้าว ... สวยจัง"

เจียน่า เจอราโด้ สาวอเมริกันวัย 24 ก็เป็น "สาวก" ผู้ลุ่มหลงการทำผิวสีแทนอย่างถอนตัวไม่ขึ้นอีกคน เธอเล่าว่า เธอใช้บริการทำผิวสีแทนบนเตียงซันเบด ที่ร้านบีช บัม ที่เธอทำงานอยู่สัปดาห์ละ 2-3 วัน

"ฉันรู้สึกมีความสุข มีความมั่นใจในตัวเอง ผิวสีแทนทำให้ฉันใส่เสื้อผ้าได้สวยขึ้นกว่าตอนที่ฉันผิวขาว"

ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่า ทั้งทริช่า และ เจียน่า รู้จักการทำผิวสีแทนมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยแม่ของพวกเธอเป็นคนพาไปทำ และทั้งสองสาวก็เริ่มไปทำเองเป็นประจำเมื่อโตเป็นวัยรุ่น

อนึ่ง จากรายงานของศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งอังกฤษ ระบุว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งผิวหนัง เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มเด็กสาววัย 20 ต้นๆ และยังมีผลการศึกษาใหม่ๆ หลายชิ้นที่ระบุว่า คนอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ไปทำผิวสีแทนโดยซันเบด หรือเตียงทำผิวสีแทน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังสูงถึง 75% แต่ดูเหมือนว่าเด็กสาวจำนวนมากกลับไม่กลัวกันเลย