ระทึกโจรหนุ่มลูกครึ่งฉกรถเฟอร์จูนเนอร์ไปพร้อมเด็กม.4 ที่หลับอยู่เบาะหลังแบบไม่รู้ตัว อาศัยไหวพริบดีสติเยี่ยม พอคนร้ายจอดรถรีบวิ่งหนีออกมาเรียกชาวบ้านช่วยแจ้งตร.จับทันควัน
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พ.ต.ท.สำราญ ดำคำ พงส.(สบ3) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งจากนายชำนาญ แซ่ตั้ง อายุ 40 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ว่าให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายขโมยรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ฌบ 7729 กรุงเทพมหานคร โดยขณะเกิดเหตุ ด.ญ.กอบลาภ เทียมเมือง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนนวมินทร์ราชูทิศ กทม. ลูกสาวตนได้นอนหลับอยู่บนรถด้วย โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ริมถนนพหลโยธิน ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไป จ.สระบุรี จึงวิทยุสกัดจับ ต่อมาศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสระบุรี พบรถคันดังกล่าวขับมาจอดอยู่ที่หน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวชื่อธารทิพย์ ริมถนนพหลโยธิน เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จึงวิทยุให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ และตำรวจจราจรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงรีบไปตรวจสอบ พบด.ญ.กอบลาภ ยืนตัวสั่นตกใจอยู่ที่ข้างรถ ขณะเดียวกันมีชายรูปร่างหน้าตาคล้ายชาวต่างชาติได้เดินกลับมาที่รถ และทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชายคนดังกล่าวได้พยายามวิ่งหลบหนีแต่ก็ถูกตามจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อนายสัมพันธ์ องศ์ประยูร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 296/66 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม จึงนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก พร้อมติดต่อไปยัง สภ.เมืองลพบุรี ท้องที่เกิดเหตุให้ประสานทางผู้เสียหายเดินทางมารับตัวบุตรสาว
จากการสอบสวนนายชำนาญ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตน ภรรยา และลูกสาว รวมถึงเพื่อนบ้านรวม 6 คน ออกเดินทางจากบ้านที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อไปมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี หลังเสร็จแล้ว ระหว่างที่ขับรถกลับมาตามเส้นทางถนนพหลโยธิน ได้จอดรถแวะดูสินค้าที่ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ บริเวณตรงข้าม สภ.ย่อยพัฒนานิคม ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี ซึ่งขณะนั้นลูกสาวนอนหลับอยู่บริเวณที่เก็บของด้านหลังรถ จึงปล่อยให้นอนและติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ ส่วนพวกตนทั้งหมดได้ลงจากรถไปดูสินค้าภายในร้าน จู่ๆ มีรถเก๋งสีดำแบบแต่งซิ่ง ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน เข้ามาจอดใกล้ตัวรถ ก่อนมีชายคนหนึ่งวิ่งลงจากรถมาเปิดประตูและขับรถของตนออกไปทันที ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน เพราะลูกสาวตนยังอยู่บนรถด้วย จึงรีบวิ่งไปตะโกนให้คนช่วยกันหยุดรถ โดยคนร้ายได้ขับรถปีนข้ามเกาะกลางถนนแล้วเลี้ยวรถมุ่งหน้าไปทาง จ.สระบุรี อย่างรวดเร็ว
“ขณะนั้นตนทำอะไรไม่ถูก ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวว่าลูกสาวจะเป็นอันตราย กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือของทุกคนก็อยู่ในรถกันหมด เลยขอยืมโทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ รีบโทรเข้ามือถือของลูกสาว แต่ก็ถูกตัดสายทิ้ง จนกระทั่งมีข้อความส่งกลับมาว่า “แม่หนูปลอดภัย ,แม่เขาไม่รู้ว่ามีหนูอยู่ ,แม่ช่วยหนูด้วย ,หนูกลัว” ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่งว่าลูกสาวรู้ตัวแล้ว ส่วนคนร้ายยังไม่รู้ว่ามีคนอยู่ในรถ เลยส่งข้อความกลับไปบอกให้ลูกสาวตั้งสติดีๆ และหลบอยู่ในรถรอจนกว่าจะมีคนไปช่วย จากนั้นได้รีบโทรแจ้งให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้าย จนกระทั่งลูกสาวหนีออกมาจากรถขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านช่วยแจ้งตำรวจจับกุมคนร้ายได้ โดยบริเวณจุดที่พบรถห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 กม.” นายชำนาญ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่หายตื่นตระหนก
ด้าน ด.ญ.กอบลาภ เปิดเผยถึงนาทีระทึกขวัญขณะที่ติดอยู่ในรถว่า รู้สึกตกใจมาก พอตื่นขึ้นมาเห็นว่าคนขับรถไม่ใช่พ่อ และทุกคนไม่ได้อยู่ในรถ เลยรู้ว่าถูกคนร้ายขโมยรถแน่นอน จึงก้มลงหมอบที่พื้นรถ และพอแม่โทรศัพท์เข้ามาได้ตัดสายทิ้ง และใช้วิธีส่งข้อความกลับไปแทน เพราะเกรงว่าคนร้ายจะรู้ตัวและทำอันตราย จนกระทั่งเมื่อคนร้ายขับรถมาจอดและลงจากรถ จึงค่อยๆ ปีนข้ามมาที่เบาะด้านหน้าและเปิดประตูวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวให้ช่วยแจ้งตำรวจมาจับคนร้ายไว้ได้
สอบสวนนายสัมพันธ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ออกตระเวนลักรถยนต์ของเหยื่อที่จอดติดเครื่องยนต์ไว้ที่ริมถนน โดยก่อนเกิดเหตุหลังจากที่เพื่อนขับรถมาส่งและสามารถขโมยรถคันนี้ได้แล้ว ได้นัดแนะเจอกับเพื่อนที่สถานีขนส่ง จ.สระบุรี แต่ระหว่างทางได้จอดแวะซื้อเสื้อเปลี่ยนการแต่งกายเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าบนรถมีคนอยู่ ทำให้ถูกจับกุมได้ในที่สุด ต่อมาตำรวจได้วางแผนให้นายสัมพันธ์ ขับรถของผู้เสียหายไปที่สถานีขนส่ง จ.สระบุรี เพื่อตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งอีกราย แต่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.