ตะลึง ชาวไต้หวันชมหนังฟอร์มยักษ์ “อวตาร”ถึงขั้น เสียชีวิต แพทย์ระบุผู้ตายมีประวัติความดันโลหิตสูง ยิ่งมาดูหนังแนวตื่นเต้นในระบบ 3 มิติอีกเลยทำให้เส้นเลือดในสมองแตก เผยระหว่างนำส่งโรงพยาบาลนั้นผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว เมื่อสแกนสมองดูก็พบว่ามีเลือดคั่งจำนวนมาก หลังจากนั้น 11 วันก็เสียชีวิต ชี้เป็นกรณีแรกที่ตายแบบนี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ว่า เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อชายชาวไต้หวัน แซ่กัว วัย 42 ปี เกิดเสียชีวิต เพราะการชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวู้ดเรื่อง “อวตาร” ในระบบ 3 มิติ อย่างไรก็ตาม ผู้ตายมีประวัติความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ยิ่งดูหนังด้วยความตื่นเต้นเกินเหตุ จึงทำให้ถึงแก่ชีวิตดังกล่าว
นาย เผิง จินจื้อ แพทย์ห้องฉุกเฉิน กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนม.ค. นายกัวเริ่มมีอาการไม่ดีช่วงที่ชมภาพยนตร์อวตารในโรงภาพยนตร์ที่เมืองซินชู ทางภาคเหนือของเกาะไต้หวัน ขณะนำส่งโรงพยาบาลหนานเหมิน เจเนอรัลนั้น นายกัวหมดสติไปแล้ว แพทย์ตรวจพบว่า นายกัวมีความดันโลหิตสูง คาดว่าเกิดมาจากการชมภาพยนตร์ด้วยความตื่นเต้นมากเกินไป จึงทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งผลจากการสแกนศีรษะ พบว่ามีเส้นเลือดในสมองแตก หลังจากนั้น 11 วันจึงเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก
ไชน่า ไทมส์ รายงานว่า การตายเพราะชมภาพยนตร์อวตารดังกล่าว ถือเป็นกรณีแรก ขณะที่มีผู้วิจารณ์ทางอินเตอร์เน็ตพากันบ่นว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วปวดศีรษะ วิงเวียน ตาลาย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ชมภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติเรื่องอื่นๆ
สำหรับภาพยนตร์อวตาร เพิ่งคว้ารางวัลใหญ่ในงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 67 เมื่อต้นสัปดาห์ พร้อมด้วยรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยเจมส์ คาเมรอน ทำให้เป็นตัวเก็งที่อาจชนะในเวทีออสการ์ปีนี้ นอกจากนี้ หนังยังทำสถิติโกยเงินสูงสุดตลอดกาล ขึ้นมารั้งอันดับที่ 3 ด้วยยอดสิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 491.8 ล้านดอลลาร์ แทนที่สงครามอวกาศสตาร์วอร์ส ที่ทำไว้ 461 ล้านดอล ลาร์ โดยอันดับ 1 ได้แก่ ไททานิค ผลงานของคาเมรอนเช่นกัน ทำเงิน 601 ล้านดอลลาร์ และอันดับ 2 หนังภาคต่อของแบ๊ตแมน เดอะ ดาร์ก ไนต์ 533 ล้านดอลลาร์
ด้านนายสุ วิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ผู้นำธุรกิจบันเทิงทางด้านโรงภาพยนตร์ภายใต้ชื่อ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้, เอสเอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า, เอสเอฟ เอ็กซ์ เวิลด์ ซีเนม่า กล่าวถึงกรณีชาวไต้หวันเส้นโลหิตแตกตายเพราะดูหนังอวตารระบบ 3 มิติ ว่า คงต้องวิเคราะห์ในเชิงลึกแล้วว่าหัวใจวายเพราะเกิดจากการชมภาพยนตร์ หรือจากสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง หรืออย่างอื่น ส่วนตัวไม่อยากให้ตัดสินว่าเกิดจากการชมภาพยนตร์ การรับชมภาพยนตร์อวตารในรูปแบบ 3 มิติ จะให้อรรถรสในการชมมากกว่ารูปแบบปกติ ด้วยเทคโนโลยีทำให้ผู้ชมสนุกสนานมากขึ้น ตนเคยสอบถามลูกค้าที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จำนวน 100 คน ซึ่งรับชมในรูปแบบธรรมดาเสร็จแล้วรู้สึกไม่เต็มอิ่ม แต่พอได้ดูในรูปแบบ 3 มิติทุกคนบอกว่าดีจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบต่อจำนวนผู้ชมที่จะตัดสินใจเข้าไปชมภาพยนตร์ อวตารในรูปแบบ 3 มิติหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะผู้ที่เข้าไปชมส่วนใหญ่จะออกมาบอกกันปากต่อปากว่าต้องดูแบบ 3 มิติถึงจะได้อรรถรสที่สุด อีกอย่างตนกลับมองสวนทางว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นผลบวกต่อภาพยนตร์อวตารในรูป แบบ 3 มิติ คือจากคนที่ไม่คิดอยากรับชมในรูปแบบ 3 มิติ อาจจะเปลี่ยนความคิดว่าลองเข้าไปดูดีไหม จะตื่นเต้นถึงขนาดทำให้คนหัวใจวายได้เลยหรือเปล่า
ต่อข้อถามว่าใน เมืองไทยเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่า “เท่าที่คลุกคลีอยู่กับธุรกิจภาพยนตร์ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน ถึงได้บอกว่าต้องวิเคราะห์ในเชิงลึกว่ากรณีการเสียชีวิตของชาวไต้หวันคนนี้ เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ มันจะดูเลื่อนลอยมากถ้าใครสักคนเสียชีวิตระหว่างการชมภาพยนตร์ แล้วกล่าวหาว่าเป็นผลพวงจากการชมภาพยนตร์”
นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า “ส่วนตัวผมได้ชมภาพยนตร์อวตารทั้งในรูปแบบปกติและ 3 มิติ ซึ่งรูปแบบ 3 มิติ มีความตื่นเต้นมากกว่ารูปแบบปกติแน่นอน แต่จะมากน้อยขนาดไหนผมอยากอธิบายว่า เดี๋ยวนี้ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในเมืองไทยแต่ละเรื่อง รวมถึงทั่วโลกมีการจัดเรตภาพยนตร์แล้วทั้งสิ้น ภาพยนตร์อวตาร จัดให้อยู่ในเรตจี (G-General) หมายถึง อนุญาตให้ทุกคนเข้าชมได้ ฉะนั้นผู้สร้างต้องคำนึงแล้วว่าทำออกมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย ความตื่นเต้นเร้าใจทั้งหมดในภาพยนตร์มีมาตรฐานระดับสากล”