ชายชาวจีนคว้าหญิงความจำเสื่อมมาเป็นภรรยา อยู่กินกันนาน 8 ปี มีลูก 3 คน ก่อนถูกทิ้งหลังจากที่ความจำเธอกลับมา

      เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม เว็บไซต์ข่าวซ่างตูของจีน รายงานว่า หวังซ่งซาน ชายชาวจีนวัย 43 ปี ฐานะยากจน พบรักสาวเร่ร่อนสติไม่สมประกอบ ความจำเสื่อม ก่อนพากลับบ้านไปเป็นภรรยา และอยู่ร่วมกันมา 8 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่หลังจากที่ส่งตัวภรรยาไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว เธอก็จำความได้ และไม่ยอมพบหน้าเขาอีกเลย

       โดยนาย หวังซ่งซาน เล่าว่า เมื่อปี 2003 (พ.ศ.2546) ช่วงฤดูหนาว ขณะที่เขาอายุ 35 ปี เขาได้พบกับหญิงสาววัยรุ่นเร่ร่อนที่ตลาด ในนครเซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งเธอมีปัญหาความจำเสื่อม จำไม่ได้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน หรือพ่อแม่เป็นใคร รู้แค่เพียงว่าชื่อเฉินเซี่ย มาจากเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มณฑลเจียงซี

       ด้วย ความที่เขายังไม่แต่งงานและเกิดถูกใจหญิงสาวคนนี้เข้า จึงตัดสินใจพาเธอกลับบ้านไปเป็นภรรยา ซึ่งหลังจากที่เขาพาเฉินเซี่ยมาอยู่ด้วยกันแล้ว เฉินเซี่ยก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน และหวังซ่งซานก็ไม่ได้พาเธอไปจดทะเบียนสมรสเช่นกัน จนกระทั่งปี 2004 (พ.ศ.2547) เฉินเซี่ยได้ให้กำเนิดลูกสาว แต่หวังซ่งซานได้ส่งให้พี่สาวในมณฑลเหอหนานช่วยเลี้ยง และหลังจากนั้นพวกเขาได้ให้กำเนิดลูกชายอีก 2 คน ปัจจุบันลูกชายคนโตอายุ 7 ขวบ คนเล็ก 5 ขวบ

       ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ที่ผ่านมา นายหวังซ่งซานหวังที่จะรักษาอาการป่วยความจำเสื่อมของภรรยาเช่นกัน แต่ด้วยฐานะที่ยากจน เขาจึงอ้อนวอนขอความช่วยเหลือต่อทางหน่วยงานของรัฐบาลให้ภรรยาของเขาได้รับ การรักษาหลายครั้ง จนในสุดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมปีที่ผ่านมาความพยายามของเขาก็เป็นผล ภรรยาของเขาได้ถูกส่งตัวไปรักษา แต่ปรากฎว่า หลังจากที่เธอเข้ารับการรักษาแล้ว เธอก็หายตัวไปนานนับปี ทำให้เขาพยายามร้องเรียนถึงการหายตัวไปของเฉินเซี่ย

        จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบเบาะแสของเฉินเซี่ยว่า เธอรักษาที่โรงพยาบาลคังหนิงเป็นเวลา 10 กว่า วัน ซึ่งทำให้เธอสามารถจดจำชื่อของเธอซึ่งก็คือ เฉินเซี่ยฉิน ได้ รวมถึงจำที่อยู่ของเธอที่โผหยาง มณฑลเจียงซี ได้ด้วย จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อคนทางบ้านมารับตัวเธอกลับไป และเธอก็ไม่ยอมกลับมาใช้ชีวิตกับหวังซ่งซานอีก

       อย่าง ไรก็ตาม หวังซ่งซาน กล่าวว่า เขาจะเดินทางไปพบภรรยาที่เมืองเจียงซี เพื่อถามเธออีกครั้ง หากเธอยืนกรานไม่ยอมกลับมาอยู่กับเขา เขาก็จะหาทางเลี้ยงลูกของเขาทั้ง 3 คนเพียงลำพังต่อไป